เมื่อวันที่ 9 ก.ค.  กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย  ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ระบุว่า เนื่องด้วยศาลสถิตยุติธรรมมีคำสั่งให้จำคุกต่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และหนึ่งในแกนนำคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางข้อกังขาที่ว่า นายจตุพร ได้จำคุกมาครบแล้วใน 2 คดี ซึ่งเป็นคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ทั้ง 2 คดี โดยเป็นการนับพร้อม จำคุกพร้อมกันทั้งสองคดีซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อจำคุกจนครบและได้หมายบริสุทธิ์จนปล่อยตัวมากว่า 3 ปี แล้ว กลับมีเหตุให้ต้องกลับไปจำคุกอีกครั้งเนื่องจากนับวันขังไม่ครบและให้นับต่อใหม่ ซึ่งคดีเช่นนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในกระบวนการยุติธรรมไทย 

 คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ขอยืนยันว่า แม้นายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในแกนนำจำเป็นต้องหยุดพักภารกิจชั่วคราว แต่การเคลื่อนไหวของไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะยังเดินหน้าต่อไปเพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง ภายใต้การนำของนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และคณะเหมือนเดิมทุกประการ ข้อกล่าวหาที่รัฐบาลทรรัฐใช้กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งคุกคามแกนนำคณะสามัคคีฯ ไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชนได้ และข้อครหาที่มีผู้มีอำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อเตะตัดขาการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน ไม่อาจประสบความสำเร็จ เพราะการต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลที่ชั่วช้า ทุจริตคอร์รัปชั่นอำนาจและเงินตรา ค้าความตายของพี่น้องประชาชน เป็นฉันทานุมัติของคนไทยทั้งประเทศแล้ว ไม่มีใครที่กลัวการถูกดำเนินคดีใดๆ ที่ไม่ชอบธรรม เพราะภารกิจการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เป็นภารกิจเพื่อชาติบ้านเมืองและส่วนรวมอย่างแท้จริง แม้แกนนำคนใดต้องถูกดำเนินคดี ก็จะมีแกนนำคนใหม่ออกมานำการต่อสู้ไม่มีสิ้นสุด 

พล.อ.ประยุทธ์ ชะตาขาดแล้ว เนื่องจากบริหารบ้านเมืองล้มเหลว ไร้ซึ่งภาวะผู้นำ เห็นแก่ตัวเอง พวกพ้อง ผลประโยชน์ และนายทุน มิได้คำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชน ดังที่ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีควรทำ และยังใช้ความเป็นความตายของประชาชนในการรักษาอำนาจไว้ ตามการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปไม่สิ้นสุด แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิดได้ จนการระบาดกว้างขวาง พี่น้องประชาชนทุกข์ยากลำเค็ญไปทั่วทุกหัวระแหง วัคซีนที่นำเข้ามาก็ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นอย่างชัดเจนด้วยการผูกขาดการนำเข้าวัคซีนอย่างเป็นระบบ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ในอำนาจต่อไป ปัญหาประเทศไทยก็จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นตามลำดับ เสียหายทั้งชีวิต เศรษฐกิจ สังคมของประชาชนทั่วไป 

 คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จึงขอประกาศว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้งในหมู่ประชาชนและสามัคคีประชาชนทุกฝ่าย เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม. ลาออกโดยเร็วที่สุด ก่อนชาติบ้านเมืองจะพังทลาย และความเสียหายจะยากเกินเยียวยามากไปกว่านี้ โดยขอส่งสารฉบับนี้ ไปถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี อย่าได้ใช้สถานการณ์ระบาดโควิด-19 เป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจและหลอกลวงประชาชนอีกเลย เพราะปัจจุบันนี้ บุคลากรทางการแพทย์เริ่มจะรับมือกับสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ไม่ไหวแล้ว เพราะการขาดความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ชั่วช้าสามานย์ อย่าให้ประเทศต้องถูกทำลายเพราะผู้มีอำนาจที่ฉ้อฉลไม่กี่คนอีกต่อไปเลย 

“โดยในวันเสาร์ที่ 10 ก.ค.  นี้ คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ขอประกาศเข้าร่วมกิจกรรม Car Mob กับเครือข่ายนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ สมบัติ (ทัวร์) เพื่อร่วมกันขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี”