การ์ตูนสั้น จบในตอน เรื่อง ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้นำรถยนต์ราชการไปราชการในพื้นที่ ได้ขับไปจอดไว้บริเวณประตูรั้วหน้าบ้านพักของตน เพื่อไปเอาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์และไม่ได้ถอดกุญแจรถยนต์ออก เป็นเหตุให้รถยนต์ถูกโจรกรรม ถือเป็นการกระทำละเมิดที่ลูกจ้างคนดังกล่าวต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ ?
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสืบค้นคำพิพากษาหรือคำสั่ง ได้คลิกที่นี่ หรือ สอบถามข้อมูลหรือปรึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีปกครองได้ที่ สายด่วนศาลปกครอง 1355 (ในวันและเวลาราชการ)
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ลำดับเหตุการณ์ดังนี้ นายหนึ่งเป็นลูกจ้างประจำได้รับมอบหมายให้นำรถยนต์ไปราชการในพื้นที่ ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 20 จึงได้นำรถยนต์ไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางในช่วงเย็นของวันที่ 19 โดยก่อนที่จะนำรถยนต์ไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิง นายหนึ่งได้ขับรถยนต์ไปจอดไว้บริเวณประตูรั้วหน้าบ้านพัก เพื่อไปเอาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งไม่ได้ดับเครื่องยนต์และลงจากรถโดยไม่ได้ถอดกุญแจรถยนต์ออก จนเป็นเหตุให้รถยนต์ถูกโจรกรรม เมื่อนายหนึ่งเห็นว่า คนร้ายขับรถยนต์หลบหนีก็ได้วิ่งเข้าไปทุบกระจกและพยายามเปิดประตูรถยนต์ พร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ
หน่วยงานต้นสังกัดได้ออกคำสั่งเรียกให้นายหนึ่งชำระเงินเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดดังกล่าว แต่นายหนึ่งเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งเรียกค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
ส่วนแนวคำวินิจฉัย ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นลูกจ้างประจำได้มอบหมายให้นำรถยนต์ไปราชการในพื้นที่ในเวลา 05.00 น.ของวันที่ 20 การนำรถยนต์ไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางในช่วงเย็นของวันที่ 19 จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่พึงกระทำ โดยก่อนที่จะทำรถยนต์ไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงผู้ฟ้องคดีได้ขับรถไปจอดไว้บริเวณประตูรั้วหน้าบ้านพัก เพื่อไปเอาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งไม่ได้ดับเครื่องยนต์และลงจากรถโดยไม่ได้ถอดกุญแจรถยนต์ออกเป็นเหตุให้รถยนต์ถูกโจรกรรม
เมื่อปรากฏว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าบ้านพักของผู้ฟ้องคดีซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณทางเข้าหมู่บ้านมีพนักงานรักษาความปลอดภัย ปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา อีกทั้งผู้ฟ้องคดีได้จอดรถยนต์โดยหันหัวรถยนต์ชิดเข้าหาประตูรั้วบ้านและใช้เวลาในการเปิดประตูรั้วประมาณ 1-2 นาที แม้จะปราศจากความระมัดระวังแต่ทันทีที่ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคนร้ายขับรถยนต์หลบหนีก็ได้วิ่งเข้าไปทุบกระจกและพยายามเปิดประตูรถยนต์พร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ รวมถึงได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ พฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีแม้จะถือเป็นการกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐแต่ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ผู้ฟ้องคดีจึงไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายจากการที่รถยนต์ของทางราชการสูญหาย