เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า นายโรเบิร์ต เอฟ โกเด็ก เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย มาพบตน เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้พูดคุยกันถึงเรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้มาพบตน ตนเข้าใจว่าหน่วยงานที่ดูแลด้านยาเสพติดของสหรัฐอเมริกา เขาได้มีการประสานงานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของเราอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ได้ลงไปในพื้นที่มากนัก เพราะฉะนั้นถ้าตนมีโอกาสลงพื้นที่ในภาคเหนืออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะลงไปในปลายเดือนส.ค.นี้ ก็จะเชิญเขาไปด้วย เพราะอย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแค่ยาบ้าอย่างเดียวที่เพิ่มขึ้นมา แต่มีจำนวนเฮโรอีนที่เพิ่มขึ้นมา 4 เท่าตัวด้วย โดยมีปลายทางอยู่ที่ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
เมื่อถามว่าจะมีมาตรการอะไรเด็ดขาดที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไปได้โดยเร็ว นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ก็ทำกันอยู่ อย่างที่บอกไปว่าเรามี 25 จังหวัดหลัก โดยโฟกัสที่จ.น่านและร้อยเอ็ด ที่จะต้องให้เป็นจังหวัดสีขาวให้ได้ภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ จุดหลักคือการเอ็กซเรย์ทุกคน มีการตรวจปัสสาวะ และจับเข้ากระบวนการ
เมื่อถามต่อว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รายงานเรื่องการตรวจปัสสาวะของกลุ่มนักศึกษาในสถาบันอาชีวศึกษาว่าพบปัสสาวะสีม่วงเยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้รายงานอะไร แต่ถ้าเจอต้องเข้าสู่ระบบ ซึ่งในวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนได้คุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ว่ากระทรวงมหาดไทยจะต้องช่วยกันเยอะขึ้น เพราะใน 25 จังหวัดนี้ มีบางจังหวัดทำได้ดีเกินคาด แต่บางจังหวัดยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ตนจึงกำชับให้นายอนุทินให้สั่งการจังหวัดต่างๆ ซึ่งนายอนุทินได้รับปากจะกำชับในเรื่องนี้.