เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า จากกรณีการระบาดของปลาหมอคางดำที่กำลังสร้างวิกฤติทำลายทั้งอาชีพเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเสี่ยงกระทบต่อระบบนิเวศอย่างรุนแรงในเวลานี้ ทำให้เมื่อสัปดาห์ก่อน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสั่งการให้ทำความจริงให้ปรากฏ ต่อมา รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับลูกและแจ้งต่อสาธารณะว่าได้ตั้งคณะทำงานตามล่าหาความจริง ขีดเส้นใน 7 วันต้องรู้ นับเวลาเริ่มต้น วันที่ 19 ก.ค. ครบ 7 วัน ในวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ให้เวลาจนถึงวันนี้เป็นสิบวันถ้วน ทว่าความจริงยังไม่ปรากฏ แถมกลับมืดมนลงทุกที เพราะคณะทำงานดังกล่าวเงียบหายไป ส่วนบริษัทเอกชนที่มีข้อมูลพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการนำเข้ามา และอาจเป็นต้นตอการระบาดในครั้งนี้ ก็ยังคงหลบหน้า ไม่ยอมมาชี้แจงใดๆต่อคณะกรรมาธิการที่สภาตั้งขึ้น
นายณัฐชา กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเคยเจอสถานการณ์ที่ภาครัฐต้องชนกับทุนมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นเป็นประเด็นเรื่องหมูเถื่อน เป็นประเด็นที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก ต้องขาดทุนล้มหายตายจากไปจากตลาดเกือบหมด จนเกิดสภาพกึ่งผูกขาดที่ทำให้หมูมีราคาแพง กระทบปากท้องค่าครองชีพมาจนถึงตอนนี้ ทำให้ประชาชนเฝ้าจับตาติดตามมาตลอดว่าใครคือไอ้โม่งที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนซ้ำรอยอีกแล้ว เมื่อทุนใหญ่ทำท่าว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีปลาหมอคางดำ ส่วนท่าทีของนายกรัฐมนตรีขึงขังจริงเอาจังแค่ตอนออกสื่อ ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ก็รับลูกโดยบอกว่าต้องหาตัวการคนผิดให้ได้ ซึ่งเป็นละครหน้าฉากบทเดิมๆ เล่นกันเหมือนเดิมๆ
“สุดท้ายก็เป็นแค่ลมปากเหมือนเดิม ตอนนี้เกินเส้นตาย 7 วัน ตามที่สัญญาไว้ว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ แต่ก็ดูเหมือนความจริงกำลังจะเงียบหายไปกับสายลมอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งจากการดำเนินงานผ่านกลไกสภา ร่วมกับภาคประชาชนและผู้เดือดร้อน เราเชื่อว่ามีข้อมูลบ่งชี้ให้รัฐไปทำงานหาตัวคนต้องรับผิดชอบต่อได้แน่ แต่เรากลับยังคงไม่ได้รับความจริงว่าต้นตอสาเหตุของปลาชนิดนี้มาได้อย่างไร กระบวนการวิธีการก็ยังคงเป็นปริศนาว่าเหตุใดปลาที่อยู่ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ ถึงมาโผล่อยู่ใจกลางประเทศไทย ซึ่งผมได้กล่าวไปแล้วในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา ว่าสามารถเรียกได้เลยว่าคือปลาเถื่อน และเหตุการณ์ปลาเถื่อนครั้งนี้ต้องเฝ้าดูว่ารัฐไทยกับกลุ่มทุน จุดจบจะจบลงแบบใด ประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถช่วยกันติดตาม และตามทวงถามความจริงให้เกิดขึ้นให้ได้”นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา กล่าวอีกว่า สิ่งที่พวกเราทำผ่านสภาฯได้ ก็ได้ทำไปหมดแล้ว เหลือแค่ว่าจะไปตามคณะทำงานหาความจริงของรัฐบาลได้ที่ไหน ใครรู้ฝากแจ้งข่าวด้วย เพราะตั้งแต่ครบเวลาแล้ว ก็สาบสูญไปเลย หรือถ้าพวกท่านรู้ตัวว่าประชาชนถามถึง ก็ช่วยปรากฏตัวมารายงานความคืบหน้าด้วย