เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีผู้นำและผู้ประกอบพิธีทางศาสนา คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคู่สมรส หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี
โดยเมื่อนายกฯ และภริยาเดินทางถึงตึกภักดีบดินทร์ ได้เยี่ยมชมศาสนวัตถุสำคัญของแต่ละศาสนา อาทิ พระบรมสารีริกธาตุ ศาสนาพุทธ กังฆา กิรปาน กัจแฉร่า ศาสนาซิกข์ คัมภีร์ไบเบิล โน้ตเพลงสาธุการ ศาสนาคริสต์ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ศาสนาอิสลาม และประวัติพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย ศาสนาพราหมณ์ฮินดู
จากนั้นนายกฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกล่าวถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล ว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ข้าพระพุทธเจ้านายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมด้วย ครม. ผู้แทนองค์กรศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ฮินดู ศาสนาซิกข์ และพสกนิกร ที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ ต่างมีความปีติยินดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ อันเป็นมิ่งมงคลของชาติในวาระนี้
นายกฯ กล่าวต่อว่า ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ต่างชื่นชมในพระบารมี และสำนึกตระหนักว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะล้ำเลิศ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนชาวไทย ทรงเป็นแบบอย่างแก่พสกนิกร ในการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนในพระศาสนา ได้พระราชทาน พระบรมราชูปถัมภ์หลากหลายและต่อเนื่อง เป็นผลให้เกิดความสงบร่มเย็น และความสุขใจแก่พสกนิกรชาวไทย ผู้เป็นศาสนิกของทุกศาสนา เป็นที่ระบือยศไปในนานาประเทศว่าทุกศาสนา และถ้วนหน้าศาสนิกชาวไทย ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ถึงปานนี้
นายกฯ กล่าวอีกว่า ณ มหามงคลสมัยนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตามความเคารพเลื่อมใสของทุกศาสนา ประกอบกับอานิสงส์แห่งพระราชกุศล ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญ จงได้เป็นผลดลบันดาล ให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเกษมสำราญ เบิกบานพระราชหฤทัยอยู่เป็นนิจ สรรพกิจที่ต้องพระราชประสงค์ จงสัมฤทธิ์ พระเกียรติยศแผ่ไปในทิศานุทิศ ไม่มีประมาณ ประชาชนชาวไทยได้เย็นศิระเพราะพระบริบาล ตลอดกาลนาน เทอญ
ต่อมาดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่นายกฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เริ่มพิธีทางศาสนา ประกอบด้วย พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล (ศาสนาพุทธ) โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร และพระราชาคณะรวม 10 รูปร่วมพิธี พิธีดุอาอ์ขอพร (ศาสนาอิสลาม) โดยนายประสาน ศรีเจริญ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ศาสนาอิสลาม และคณะ พิธีอธิษฐานภาวนาขอพร (ศาสนาคริสต์) โดยบาทหลวงสมเกียรติ บุญอนันตบุตร เลขาธิการคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์ และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ พร้อมด้วยผู้แทนศาสนาคริสต์ พิธีสวดมนต์ถวายพระพร (ศาสนาพราหมณ์–ฮินดู) โดยพระครูสุริยาเทเวศร์ สำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง และคณะ พิธีสวดอัรดาส และกีรตันขอพรจากพระศาสดา (ศาสนาซิกข์) โดยนายปินเดอร์ปาลซิงห์ มาดาน นายกสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์ แห่งประเทศไทย และคณะ
ต่อมานายกฯ ถวายของที่ระลึกแด่ประธานสงฆ์ และมอบของที่ระลึกแด่ผู้นำศาสนารวม 5 ศาสนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยในส่วนกลาง จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อรวมพลัง 5 ศาสนา ในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนศาสนาต่างๆ โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ โดยพิธีทางศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์.