ต้องยอมรับว่า “กำลังซื้อผู้สูงวัย” ไม่อาจมองข้ามได้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องหมั่นอัปเดทข้อมูลผู้บริโภคกลุ่มนี้ เพื่อมองหาโอกาสจากการตอบโจทย์ลไฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุ และวันนี้คอลัมน์นี้ก็มีข้อมูลอินไซต์น่าสนใจในเรื่องนี้ โดยเป็นชุดข้อมูลจาก บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด หรือ Kresearch ที่เผยแพร่รายงานชิ้นนี้ไว้ จะน่าสนใจแค่ไหนต้องลองมาติดตามกันดู

ทั้งนี้ ในรายงานฉบับนี้ได้ประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยในปี 2024 น่าจะอยู่ที่ราว 1.7 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2029 จากการที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด ส่งผลให้สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจึงได้รับประโยชน์ตามไป โดย ธุรกิจที่คาดว่าจะได้อานิสงส์ จากการขยายตัวของสังคมสูงวัย แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1.ธุรกิจที่เน้นด้านสุขภาพ ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจการดูแลสุขภาพ โดยการใช้จ่ายใน 2 หมวดนี้มีสัดส่วนรวมกันกว่า 37% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของผู้สูงอายุ ซึ่งสูงกว่าการใช้จ่ายในหมวดเดียวกันของช่วงวัย หรือ Generation อื่น ราว 3% สอดคล้องกับผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่พบว่า ผู้สูงอายุไทยมีความสนใจซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมากกว่าช่วงวัยอื่น โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 65% ของผู้สูงอายุที่ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ซึ่งสินค้าและบริการที่น่าจะเป็นโอกาสในกลุ่มนี้ ได้แก่ ศูนย์โรคเฉพาะทาง ยาและเวชภัณฑ์ บริการดูแลผู้สูงอายุ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น โดยมีปัจจัยหนุนจากเทรนด์รักสุขภาพ ความเสี่ยงเจ็บป่วยต่าง ๆ ส่วนในหมวดอาหาร ก็จมีอาทิ อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ และอาหารทางการแพทย์ แต่ทั้งนี้รูปแบบของอาหาร ควรเคี้ยวง่าย ย่อยง่าย มีขนาดพอเหมาะ และมีโภชนาการครบถ้วน

ข้อมูลจาก บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด (Kresearch)

2.ธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้สูงอายุ ซึ่งพบว่า การใช้จ่ายต่อครั้งของผู้สูงอายุให้กับธุรกิจกลุ่มนี้จะมีมูลค่าสูง แต่มีความถี่ในการใช้จ่ายน้อยกว่าการบริโภคสินค้าในกลุ่มแรก โดยสินค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจนี้ ก็จะมีอาทิ ธุรกิจกลุ่ม Smart Home Devices อาทิ ระบบสั่งการด้วยเสียง อุปกรณ์แจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุในบ้าน กล้องติดตามการเคลื่อนไหว ไม้เท้าอัจฉริยะ เครื่องช่วยฟัง เป็นต้น, ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากปัจจุบันผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงลำพังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงการเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยในการบำบัดรักษากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น, ธุรกิจที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ที่เป็นอีกกลุ่มที่จะได้รับอานิสงส์เช่นกัน เนื่องจากผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ในปี 2023 ของ REIC พบว่ายังมีจำนวนอยู่น้อย ไม่พอเพียงต่อความต้องการของผู้สูงอายุ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าจะได้รับประโยชน์เช่นกันก็ยังมี ธุรกิจบริการทางการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ และ Reverse Mortgage สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเงินไว้ใช้หลังเกษียณ รวมถึง ธุรกิจบริการ Entertainment สำหรับผู้สูงอายุ ทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เช่น เกมบริหารสมองและช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม (Dementia) และเกมช่วยฝึกความไวของสายตา และนี่เป็น “ธุรกิจที่จะได้อานิสงส์” จาก “กำลังซื้อผู้สูงวัยไทย” ที่มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องนั้น น่าจะใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลนี้ได้อย่างมาก.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]