สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ว่า เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐเท่านั้น ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีปฏิเสธรับตำแหน่งตัวแทนพรรค เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยก่อนหน้าการถอนตัวของไบเดน เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ เกิดขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน จากพรรคเดโมแครต เมื่อปี 2511 ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวอเมริกันในเวลานั้น จากบทบาทของสหรัฐในสงครามเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พรรคเดโมแครตเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากกรณีของไบเดนเกิดขึ้น หลังพรรคเดโมแครตจัดการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
แม้ไบเดนประกาศการสนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ให้เป็นตัวแทนคนใหม่ แต่ผู้นำสหรัฐไม่มีอำนาจเพียงพอ ที่จะแต่งตั้งให้แฮร์ริสทำหน้าที่ตัวแทนพรรคโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตมีกำหนดจัดการประชุมใหญ่ ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ในวันที่ 19 ส.ค. นี้ เพื่อรับรองตัวแทนพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หากที่ประชุมใหญ่ไม่สามารถสนับสนุนตัวแทนคนใหม่ร่วมกันได้ หมายความว่า คณะผู้เลือกตั้งจะมีอิสระในการออกเสียงให้กับผู้สมัครคนใดก็ได้ของพรรค หากมีการเสนอตัวเพิ่มขึ้นมาในวันประชุมใหญ่
ปัจจุบัน พรรคเดโมแครตมีคณะผู้เลือกตั้งประมาณ 4,700 เสียง และในขั้นต้นตามกฎของพรรคเดโมแครต ผู้สมัครต้องล่ารายชื่อจากคณะผู้เลือกตั้งให้ได้อย่างน้อย 300 เสียง แต่ไม่เกิน 600 เสียง เพื่อให้มีชื่อของตัวเองอยู่บนบัตรเลือกตั้ง คณะผู้เลือกตั้งสามารถลงนามให้แก่ผู้สมัครได้เพียงคนเดียว และในแต่ละรัฐ ผู้สมัครไม่สามารถล่ารายชื่อคณะผู้เลือกตั้งได้มากกว่า 50 คน
สำหรับเกณฑ์ขั้นต่ำของการรวบรวมเสียงสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้ง ตามกฎของพรรคเดโมแครตอยู่ที่อย่างน้อย 1,975 เสียง ซึ่งก่อนการถอนตัว ไบเดนรวบรวมคะแนนเสียงสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้งได้มากถึง 95% จากทั้งหมด.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES