นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยการดำเนินการด้านการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยกรณี บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ถูกเพิกถอนใบอนุญาตว่า ข้อมูลล่าสุด ณ 31 พ.ค. 67 สินมั่นคงมีสินทรัพย์รวม 4,785 ล้านบาทแต่มีหนี้สินรวม 38,056 ล้านบาท มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 33,271 ล้านบาท โดยมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับใช้กว่า 789,477 กรมธรรม์ แบ่งเป็นรถยนต์ 366,458 กรมธรรม์ และที่ไม่ใช่รถยนต์ 423,019 กรมธรรม์ขณะที่ข้อมูลทางการเงิน มีสภาพคล่อง 2,228 ล้านบาท
สำหรับการเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และคู่สายของสายด่วน คปภ. 1186 2.สื่อสารประชาสัมพันธ์กับประชาชน ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 3.จัดตั้งศูนย์จัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำอำนวยความสะดวกทางข้อมูลแก่ประชาชนทั้งส่วนกลางและภูมิภาค
และ 4.เปิดช่องทางในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ ผ่านทางระบบออนไลน์ซึ่งจะเริ่มเปิด 9 ก.ย.-7 พ.ย. 67 โดยจะต้องเตรียมหลักฐาน เช่น กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประชาขนใบเคลม หรือเอกสารอื่นๆ ที่ระบุถึงมูลหนี้ โดยต้องยื่นคำขอพักชำระหนี้ภายใน 60 วัน
นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ กบว. ในฐานะผู้ชำระบัญชีของสินมั่นคง จะส่งไปรษณีย์ถึงเจ้าหนี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 7 ส.ค. 67 เพื่อแจ้งบอกเลิกกรมธรรม์และแจ้งให้เจ้าหนี้ยื่นใบทวงหนี้ และจะเปิดให้ยื่นแบบทวงหนี้ในช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ 9 ก.ย.-7 พ.ย. 67 ปัจจุบัน กองทุนมีหนี้สะสมอยู่ 50,000 ล้านบาท และเมื่อปิดสินมั่นคง จะมีหนี้เพิ่มเป็นเกือบ 8-9 หมื่นล้านบาท โดยมีลูกหนี้เกี่ยวข้องมากกว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งกองทุน กบว. พยายามเร่งดูแล และจ่ายหนี้ของสินมั่นคงเร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอถึง 80 ปีตามที่มีการพูดกัน
ท้้งนี้ กปว. จะมีการจัดหาที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาช่วย ทั้งการหาแหล่งเงินทุนและการดูแลลูกหนี้ ซึ่งที่ผ่านมา กองทุนมีแหล่งเงินจากเงินสมทบของบริษัทประกันภัย 1,200 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้จะนำมาจ่ายให้เจ้าหนี้ได้ทันที โดยที่ผ่านมาสามารถจ่ายไปแล้ว 7,000 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการกู้ยืม ที่ผ่านมาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ค้ำประกันให้กองทุนแล้ว 3,000 ล้านบาท แต่ยังไม่มีใครให้กู้เลย ดังนั้น จะหารือเพิ่มเติมกับ สบน. ขณะที่การของบประมาณจากรัฐบาลมาสนับสนุน ได้รับแจ้งว่าไม่เข้าเงื่อนไข
สำหรับกรณีที่มีการหารือกับสภาทนายความ เกี่ยวกับการประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ ซึ่งบางรายพร้อมรับเงินลดลงเพื่อให้ได้เร็วขึ้น อาทิ จากเดิมวงเงินหนี้อยู่ที่ 100,000 บาท เหลือเพียง 20,000 บาทนั้น จะต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายก่อนว่า มีเงื่อนไขที่สามารถทำได้หรือไม่ เพราะกฎหมายเน้นการดูแลคุ้มครองผู้เอาประกัน ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีการหารือร่วมกันต่อไป
ขณะที่แนวทางการจ่ายหนี้ให้กับลูกหนี้สินมั่นคง หากมีการรับรองมูลหนี้ไว้แล้ว จะทยอยจ่ายหนี้ได้เร็วที่สุด ภายในเดือน ก.พ. 68 ซึ่งจะมีการเฉลี่ยแบ่งจ่ายกับบริษัทอื่นๆร่วมกัน รวมถึงยังนำเงินหลักประกันืของทสินมั่นคง ที่อยู่กับ คปภ. ประมาณ 800 ล้านบาท มาจ่ายลูกหนี้ได้ด้วย
นายสมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ขณะนี้สมาชิกสมาคมฯ 9 บริษัท พร้อมให้ความร่วมมือดูแลลูกค้าสินมั่นคง โดยผู้ที่มีกรมธรรม์กับสินมั่นคง ที่ต้องการรับคืนเบี้ย สามารถติดต่อขอคืนจาก กปว. ได้ หรือนำมาเป็นส่วนลดเพื่อซื้อประกันภัยใหม่กับ 9 บริษัทที่เข้าร่วม ส่วนกรณีประกันรถยนต์หากเป็นเกิดอุบัติเหตุ บริษัทคู่กรณีพร้อมดูแล ซ่อมแซมให้ทั้งในกรณีถูกและผิด ส่วนข้อเสนอให้มีการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนจากบริษัทประกันเพิ่มนั้น เกรงว่าอาจมีผลกระทบ และมีการผลักภาระไปให้ประชาชนแทน เพราะปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมีกำไรน้อย เฉลี่ยเพียง 2.8% เท่านั้น