จากเหตุการณ์สองคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์บุกยิง นายพงศ์ธนา พรหมคง อายุ 41 ปี หรือ สท.แทน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ได้รับบาดเจ็บ และนายกาญจน์ ก้านจันทร์ อายุ 52 ปี ลูกน้องเสียชีวิต เหตุเกิดที่จุดรับซื้อน้ำยางสดของ สท.แทน ในพื้นที่บ้านท่าขี้เหล็ก หมู่ 6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เมื่อช่วง 8 โมงเช้าวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา
จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า มีผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุ 3 ราย ประกอบด้วย นายสุพัฒน์ แก้วจันทร์ อายุ 62 ปี หรือ นายกพัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลป่าบอน จ.พัทลุง 1 สมัย และยังเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สภ.ป่าบอน หรือ กต.ตร.สภ.ป่าบอน ด้วย นายเสฏฐวุฒิ แก้วจันทร์ อายุ 30 ปี หรือบิ๊ก อายุ 32 ปี ลูกชายนายกพัฒน์ และนายออย ไม่ทราบชื่อจริง กระทั่งวันที่15 ก.ค. ศาลจังหวัดพัทลุง ได้ออกหมายจับ นายกพัฒน์ กับนายเสฏฐวุฒิ ลูกชายแล้ว 2 คน
ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 16 ก.ค. ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง ชุดสืบสวน สภ.ปากพะยูน ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และตำรวจกองปราบฯ กองกำกับการ 6 นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.อนุสรณ์ เส้นตรัง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา สามารถแกะรอยติดตามจับกุม นายกพัฒน์ และนายเสฏฐวุฒิ ลูกชายได้แล้ว หลังไล่ตามสะกดรอยจากพื้นที่ จ.สงขลา จนไปจับกุมได้ ห่างจากด่านปฐมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ราว 3 กิโลเมตร ขณะขับรถกระบะหลบหนีไปเข้าพื้นที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ทีมตำรวจชุดจับกุม ได้ควบคุมตัว นายกพัฒน์ ไปตรวจค้นที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา ในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากการตรวจสอบภาพไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ พบว่าหลังก่อเหตุ นายกพัฒน์ และลูกชาย ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่เอวขวา และนายออยคนร้ายอีกคนได้ขับรถเก๋งนิสสัน เทียน่า สีดำ ทะเบียน งธ 4352 สงขลา ซึ่งเป็นรถของนายกพัฒน์ มายังบ้านหลังนี้ และยังมีภาพตอนที่ทั้งสามคนลงจากรถโดยถืออาวุธปืนพกสั้น หมวกกันน็อกสีดำ 2 ใบ, รองเท้า 2 คู่ และเสื้อผ้าลงมาจากรถด้วย ซึ่งตรงกับที่คนร้ายใช้ขณะลงมือก่อเหตุทั้งหมด
จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านหลังนี้ แม้ว่าทีแรกภรรยาจะไม่ให้ความร่วมมือปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น เจ้าหน้าที่ก็พบหลักฐานสำคัญที่ตรงกับภาพตอนนำลงจากรถ ทั้งหมวกกันน็อกสีดำสองใบ อาวุธปืน 3 กระบอก รองเท้าผ้าใบสีดำและสีขาว 2 คู่ ซึ่งเปื้อนโคลนและนำไปใส่ถุงซุกซ่อนไว้ใต้บันไดบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน โดยในส่วนของปืน 3 กระบอก นายกพัฒน์ อ้างว่ามีสองกระบอกที่เป็นปืนซึ่งรับจำนำไว้ และอีกกระบอกเป็นปืนมรดกของพ่อ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนที่จะคุมตัว นายกพัฒน์ และลูกชายไปทำบันทึกการจับกุม และสอบสวนแต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมจำนน เพราะหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ยึดได้มัดตัว จึงยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่ง สภ.ปากพะยูน พื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดี
สำหรับปมเหตุของคดีนี้ มาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจาก นายกพัฒน์ ซึ่งเคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง มาแล้ว 1 สมัย 9 ปี จะย้ายมาลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย อ.ปากพะยูน ที่จะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า และที่ผ่านมา ได้พยายามชักชวน นายพงศ์ธนา หรือ สท.แทน ให้มาอยู่ร่วมทีม โดยให้นั่งในตำแหน่งรองนายก แต่ สท.แทน ก็ปฏิเสธมาตลอด ทำให้ นายกพัฒน์ ไม่พอใจ จึงวางแผนให้ นายเสฏฐวุฒิ หรือบิ๊ก ลูกชาย กับนายออย เพื่อนลูกชาย ไปยิง สท.แทน ที่บ่อน้ำยางในพื้นที่หมู่ 6 ต.ดอนทราย โดยลงมือก่อเหตุเมื่อช่วง 8 โมงเช้าวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ตอนลงมือพลาด สท.แทน แค่บาดเจ็บ ส่วนลูกน้องเสียชีวิต ในขณะที่ สท.แทน ก็ยิงชักปืนยิงสวนไปด้วย ถูก นายเสฏฐวุฒิ เฉี่ยวเข้าที่เอวบาดเจ็บ ทั้งสองคนจึงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100i สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป โดยระหว่างทาง นายกพัฒน์ ได้ขับรถเก๋งนิสสัน เทียร่า มารับลูกชายกับเพื่อนพาหลบหนีออกจากพื้นที่ไปยังบ้านภรรยาที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนรถจักรยานยนต์ให้คนอื่นขี่หลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี นายกพัฒน์ และนายเสฏฐวุฒิ ลูกชาย 2 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่น โดยในวันพรุ่งนี้ทาง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 จะแถลงข่าวในรายละเอียดของคดีนี้อีกครั้ง ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนคนร้ายอีกคนที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุม.