สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ว่า เจ้าหน้าที่รัฐในเมืองนัมวอน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ประกาศเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีผู้ป่วยยืนยันแล้ว 996 ราย ขณะที่สื่อท้องถิ่น รายงานในช่วงบ่ายของวันเสาร์ว่า จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 1,024 ราย
เจ้าหน้าที่รัฐระบุเสริมว่า สาเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากมีอาการอาหารเป็นพิษ คือ กิมจิ ในอาหารกลางวันของโรงเรียนในเมือง ซึ่งนักเรียนและบุคลากรจากโรงเรียน 24 แห่ง อยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง
อนึ่ง โนโรไวรัส เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก และสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อน เช่น ที่จับชักโครก และผู้ป่วยที่ติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งแม้คนส่วนใหญ่จะหายดีภายในไม่กี่วัน โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการหนักได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐในเมืองนัมวอน เริ่มดำเนินการสอบสวนทางระบาดวิทยา เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของโรค เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังมีการพบผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันอังคาร ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 153 รายในวันพุธ เป็น 745 รายในวันพฤหัสบดี และอยู่ที่เกือบ 1,000 รายในวันศุกร์
ด้านนายชเว คยอง-ซิก นายกเทศมนตรีเมืองนัมวอน ระบุในโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมือง ดำเนินการตอบสนองที่ล่วงหน้าและครอบคลุม เพื่อพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และรับประกันความปลอดภัยของประชาชน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐระบุถึงการตรวจพบเชื้อโนโรไวรัสในกลุ่มผู้ป่วย จากตัวอย่างสิ่งแวดล้อม และในกิมจิบางส่วนที่ถูกจัดส่งไปยังโรงเรียนต่าง ๆ เป็นประจำ ส่งผลให้หน่วยงานด้านภัยพิบัติและความปลอดภัย ต้องระงับการผลิตและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มาจากบริษัทผลิตกิมจิเป็นการชั่วคราว พร้อมกับประกาศการเรียกคืนสินค้าโดยสมัครใจ.
เครดิตภาพ : AFP