เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน บวท. ในฐานะหน่วยงานผู้ให้บริการการเดินอากาศ ได้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ โดยได้ออกมาตรการรองรับสภาพอากาศแปรปรวน จากพายุฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักที่อาจส่งผลกระทบต่อการบิน ซึ่งส่งผลต่อทัศนวิสัยทางการบิน และเป็นอุปสรรคต่อเส้นทางบิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารและอากาศยาน โดย บวท. ได้ประสาน และติดตามข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาการบินอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า และการรายงานข้อมูลสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจริง ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อนำมาวางแผนการจัดการจราจรทางอากาศ รองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
นายณพศิษฏ์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ได้กำหนดวิธีปฏิบัติการให้บริการจราจรทางอากาศ หรือ Standard Operating Procedures (SOPs) กรณีอากาศยานในการควบคุมขอบินหลบสภาพอากาศ (Weather Deviation) การบินวนรอให้สภาพอากาศดีขึ้น หรือการขอเปลี่ยนเส้นทางบินไปยังสนามบินสำรอง โดยได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศทุกคน ให้ตระหนักรู้ในสถานการณ์ (Situation Awareness) ตลอดเวลา พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่อากาศยาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางการบินสูงสุด รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ เพื่อให้เกิดความสะดวก คล่องตัว และส่งผลกระทบต่อการล่าช้า
รวมถึงการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของเที่ยวบิน ในช่วงเวลาที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่น และเกิดการกระจุกตัวของเที่ยวบินในขณะที่เกิดสภาพอากาศเลวร้าย โดยการให้อากาศยานชะลอการรอวิ่งขึ้นมาจากสนามบินต้นทาง รอจนกว่าสภาพอากาศปลายทางจะดีขึ้น หรือจนกว่าการจัดการจราจรทางอากาศจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ รวมถึงการออกประกาศแจ้งเตือนให้ทุกเที่ยวบินขาเข้าของทุกสนามบิน เตรียมการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรองรับการล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ บวท. ได้จัดอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศให้พร้อมต่อการให้บริการในช่วงสภาพอากาศแปรปรวน และมีการปรับตำแหน่งการปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่ความรับผิดชอบให้เหมาะสมกับปริมาณการจราจรทางอากาศ
นายณพศิษฏ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้เตรียมพร้อมรองรับภาวะฉุกเฉินในทุกสถานการณ์ เช่น กรณีเครื่องบินขอลงจอดฉุกเฉิน บวท. จะเป็นด่านแรกที่ได้รับการติดต่อจากนักบิน การช่วยเหลือกรณีอากาศยานประสบเหตุฉุกเฉิน จากสภาพอากาศเลวร้าย เช่น การบินวนรอสภาพอากาศจนน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อย (Minimum Fuel) การบินตกหลุมอากาศ/อากาศแปรปรวน (Severe Turbulence) จนทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ หรืออากาศยานประสบเหตุฉุกเฉินอื่นใด
บวท. ได้กำหนดวิธีปฏิบัติรองรับไว้พร้อมแล้วเช่นกัน โดยจะปฏิบัติตามแผน และวิธีปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (Emergency Checklist) ได้แก่ การจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Priority) ให้อากาศยานนั้นเข้ามาลงโดยเร็วที่สุด พร้อมอำนวยความสะดวก ประสาน และให้ความช่วยเหลือตามที่นักบินร้องขอ พร้อมแจ้งเหตุให้ท่าอากาศยาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาคพื้นและผู้แทนสายการบินทราบ ตามระบบการแจ้งเหตุฉุกเฉิน เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ และเตรียมพร้อมการปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยานที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานสากลต่อไป
นายณพศิษฏ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในฤดูฝนนี้ อาจต้องพบกับความล่าช้าของเที่ยวบินบ้างในบางช่วงเวลา ในกรณีที่เกิดฝนฟ้าคะนองหรือสภาพอากาศแปรปรวนในบริเวณสนามบิน ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และข้อมูลข่าวสารจากสายการบิน ท่าอากาศยานอย่างใกล้ชิด หากมีการปรับตารางการบิน หรือยกเลิกเที่ยวบิน รวมทั้งเผื่อเวลาการเดินทาง เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินทางได้ตามกำหนดเวลา และที่สำคัญขอให้รัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ขณะนั่งประจำที่บนเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง.