หากใครเห็น “หนังสือเก่า” หรือ “ตำราเรียนเก่า” น้อยคนนักจะหยิบขึ้นมาอ่าน

แต่หารู้ไม่ว่า ทุกประโยคในหนังสือเก่านั้น ล้วนเปี่ยมไปด้วยคุณค่า

ทุกวันนี้หนังสือเก่า จึงถูกเมินด้วยไม่เห็นความสำคัญอีกแล้ว

แต่ไม่ใช่กับ “ครูจิตอาสา” อย่าง “ครูเก๋” ได้นำหนังสือเก่าหาดูยากมาให้อ่านและแจกให้ฟรี

ตึกแถวอาคารไม้เก่าเลขที่ 8/8 ถนนธานี ต.ในเมือง อ.เมืองจ.บุรีรัมย์ ได้เปิดบ้านให้ชาวบุรีรัมย์ และนักท่องเที่ยว ได้เข้ามาอ่านหนังสือและตำราเก่าแก่ที่หาดูได้ยากได้ฟรี หนังสือบางชนิดแจกฟรี

บ้านไม้โบราณอายุมากกว่า 100 ปี เปิดขึ้น หลังจากเจ้าของได้มอบบ้านให้มูลนิธิกระจกเงา มาเป็นผู้ดูแล

โดยมูลนิธิกระจกเงา เองนั้น ก็ได้มอบหมายให้ น.ส.วนิดา เจียมรัมย์ ซึ่งเด็กๆ เรียก “ครูเก๋” (ครูจิตอาสา) มาเป็นผู้ดูแลอีกชั้นหนึ่ง

น.ส.วนิดา บอกว่า หลังได้รับมอบบ้านไม้โบราณ ทางมูลนิธิกระจกเงาได้ตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า “บ้านเรียนบ้านสวน” ในบ้านหลังนี้พบว่ามีหนังสือเก่าแก่ตำราเก่าแก่เป็นจำนวนมาก อาทิ ตำราทำอาหารไทย , คัมภีร์ สรรพคุณยาไทยฯลฯ

บ้านหลังนี้จะเปิดให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ หรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาพักผ่อน อ่านหนังสือโบราณว่าแนวการเขียนของนักเขียนสมัยก่อนต่างกันอย่างไรกับนักเขียนรุ่นใหม่

น.ส.วนิดา บอกเล่าอีกว่า ต้องยอมรับว่า ยุคปัจจุบัน หนังสือเหล่านี้ถูกลดให้ความสำคัญไปเรื่อยๆ ตามยุค เด็กเริ่มหันไปหาออนไลน์โลกโชเซียลมากขึ้น ตนจึงเล็งเห็นความสำคัญของหนังสือเก่าแก่ ที่มีคุณค่าของสมัยปู่ย่าตายายยุคเก่า

ดังนั้นถือเป็นสิ่งที่น่าศึกษา ทุกคนสามารถยืมไปอ่านได้ เจตนารมณ์ส่วนหนึ่งของเรา คือ อยากให้คนหันกลับไปอ่านหนังสือบ้าง เพราะการอ่านสำคัญมากกว่าการฟัง

คำกล่าวของ “ครูเก๋” ครูผู้มีหัวใจจิตอาสา สะท้อนให้เห็นภาพห้วงปัจจุบันกับอดีตได้เป็นอย่างดี

หนังสือถูกลดทอนคุณค่า อิทธิพลโซเชียลก้าวเข้ามามีบทบาทต่อเด็กรุ่นใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฉะนั้น “บ้านเรียนบ้านสวน” นับเป็นแหล่งให้ความรู้ และเป็นผู้ส่งต่อแก่ผู้ที่มีหัวใจรักษ์ “หนังสือเก่า” อย่างแท้จริง.
…………………………………………………
คอลัมน์ “เรื่องราวดีๆ ของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล “วันชัย ผิวอร่าม” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.บุรีรัมย์
อ่านเรื่องราวดีๆ ของสังคม ได้ที่นี่..