เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมการให้บริการเดินรถของสถานีรถไฟเชียงใหม่ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร (อาเขต) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเสริมเที่ยวรถรองรับขากลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษในเส้นทางสายเหนือเพิ่มอีก 1 ขบวน เป็นขบวนรถด่วนพิเศษ เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ขณะที่การให้บริการเดินรถของสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 (อาเขต) ได้มีการเสริมเที่ยวรถ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ทั้งขาไปและขากลับ
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า โดยในส่วนของรถหมวดที่ 2 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ได้เพิ่มเที่ยวรถจาก 68 เที่ยว เป็น 102 เที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 1,800 คน เป็น 2,880 คนต่อวัน ขณะที่รถหมวดที่ 3 เส้นทางเชียงใหม่-ต่างจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพฯ) ได้เพิ่มเที่ยวรถจาก 278 เที่ยว เป็น 361 เที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 5,600 คน เป็น 7,840 คนต่อวัน คาดว่าทั้งหมดนี้ จะเพียงพอต่อการเดินทางของผู้โดยสาร และจะไม่ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก จึงต้องมาดูการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจากการตรวจสอบการให้บริการ ทั้งรถไฟ และรถประจำทางที่ จ.เชียงใหม่ พบว่า ภาพรวมมีการให้บริการที่ดี มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 60% แต่ปริมาณรถโดยสารที่เตรียมไว้ก็เพียงพอต่อผู้เดินทาง หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะประชุมหารือถึงแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะร่วมกับทุกจังหวัด เพื่อผลักดันให้การบริหารจัดการและการให้บริการดียิ่งขึ้น จะนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการสร้างความปลอดภัยขากลับ จะเป็นไปตามมาตรการ “สะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ” โดยจะมีการตั้งจุด Checking Point ของกรมขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ และรถโดยสาร ก่อนที่จะออกไปให้บริการประชาชน เน้นตรวจแอลกอฮอล์ สารเสพติด และความง่วง ขณะเดียวกัน จะมีการเก็บข้อมูลสถิติต่างๆ ทั้งตัวเลขการจำหน่ายตั๋ว ทั้งในระบบออนไลน์ และวอล์กอิน การแยกประเภทของผู้เดินทาง เวลาในการเข้าจอดรถที่ชานชาลาที่เหมาะสม การไหลเวียนของระบบจราจร เพื่อที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ และพัฒนาเป็นระบบบริหารจัดการขนส่งสาธารณะที่เหมาะสม โดยมองว่าการเกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์นี้ จะลดลงอย่างแน่นอน ด้วยการเตรียมความพร้อมที่ดีของทุกฝ่าย.