เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “นันทิดา ภูมาศ” โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “เหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอ….ใกล้ตัวเราทุกที การปลิดชีวิตด้วยวิธีวิ่งใส่รถ โชคดีที่มีพลเมืองดีพบเห็น รีบแจ้งนายก ในเขตรับผิดชอบนำส่งโรงพยาบาล ปลอดภัยทั้งแม่และลูก….#ทุกคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน แค่รับฟัง…และเข้าใจ #อาการทางจิตเวช ควรได้รับการบำบัดดอย่างเร่งด่วน…..แจ้งญาติมารับรถที่บ้านนายกได้เลยนะคะ” โพสต์ไว้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.นันทิดา ภูมาศ นายก อบต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
น.ส.นันทิดา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั่งทำงานอยู่บนสำนักงาน อบต.บ้านแก้ง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีทางโทรศัพท์ ว่ามีคนพยายามฆ่าตัวตายบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแก้ง จึงขับรถประจำตำแหน่งไปตรวจสอบพบว่า บนถนนสายแก้งคร้อ-บ้านแทน ผ่านปากทางเข้าหมู่บ้านกุดเก่าน้อย ต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มีหญิงสาวอยู่ในอาการเครียดเดินเหม่อลอยอุ้มลูกอายุประมาณ 2 ขวบเศษ เดินอยู่ข้างถนนสายดังกล่าว มีท่าทีจะพยายามเดินข้ามถนนไปมา และวิ่งจะกระโดดเข้าไปให้รถที่วิ่งผ่านไปรถ จนทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมา ต้องเบรกกันตัวโก่งหลายคัน
นายก อบต.บ้านแก้ง เผยอีกว่า เมื่อเห็นดังนั้น จึงรีบจอดรถเดินเข้าไปฉุดร่างหญิงรายดังกล่าวเอาไว้ พร้อมพูดจาปลอบขวัญต่างๆ นานา จนหญิงรายดังกล่าวมีอาการสงบลง ก่อนจะโทรศัพท์เรียกรถกู้ภัยกู้ชีพของ อบต.บ้านแก้ง ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน ทราบชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เป็นลูกสาวผู้อำนวยการโรงเรียนประถมมีชื่อแห่งหนึ่ง ใน อ.แก้งคร้อ และพ่อเป็นผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง หลังกล่อมให้สงบสติอารมณ์ลง ได้แจ้งตำรวจประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ มารับตัวไปส่ง โรงพยาบาลแก้งคร้อ ทำการรักษาอาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตรวจสอบประวัติ น.ส.เอ พบว่าเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง และพ่อเป็นผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง อีกด้วย ในช่วงเป็นวัยรุ่น เรียนที่โรงเรียนมีชื่อและไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด กระทั่งมีแฟนหนุ่มต่างถิ่นแล้วมีลูกด้วยกัน 2 คน จากนั้นพ่อแม่นำตัวกลับมาอยู่บ้าน แต่ยังคงยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอยู่ จนชาวบ้านต่างรู้ดี บางวันจะอุ้มลูกขี่ จยย. มือเดียวออกไปไกลนับ 10 กม. เพื่อหาซื้อยาบ้ามาเสพจนชินตา กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการเสพยาเสพติดแล้วอาการเหม่อลอย เนื่องจากพูดวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง จึงประสานพ่อแม่มารับตัวไปดูแล พร้อมตักเตือน และให้นำตัวไปบำบัดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป