ศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ดวลกับ “สิงห์สำอาง” เชลซี โดยเกมในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกตื่นเต้น มีโอกาสทำประตูกันหลายครั้ง ส่งบอลดข้าไปตุงตาข่ายฝั่งละหน แต่ถูกวีเออาร์ยึดคืนทั้งคู่ จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง รูปเกมยังคงเป็นไปอย่างสนุกตื่นเต้น ทั้ง 2 ทีมต่างมีโอกาสยิงชนิดน่าเป็นประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ มิดฟิลด์ “สิงห์สำอาง” ที่มีโอกาสจะ ๆ หลายครั้ง แต่ไม่ผ่านมือ ควีวิน เคเลเฮอร์ มือกาว “หงส์แดง” แต่สุดท้าย จบ 90 นาทีไม่มีประตูเกิดขึ้น ต้องดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก “หงส์แดง” เป็นฝ่ายครองบอลบุกมากกว่า แต่ยังทำอะไรไม่ได้ เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง รูปเกมก็ยังคงเป็นไปแบบเดิม และทำท่าจะต้องดวลจุดโทษตัดสิน แต่สุดท้ายเป็น ‘วีวีดี’ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีม ที่สวมบทฮีโร่ โขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายในนาทีที่ 118 เป็นประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 1-0 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 10 และเป็นสมัยที่ 2 ในการคุมทีมของ เจอร์เกน คลอปป์ ที่กำลังจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้
เครดิตภาพ : Getty Images