จากกรณีเกิดเหตุใช้อาวุธปืนฆ่ากันตายในสวนปาล์มน้ำมันที่บ้านบางปาน หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี รอยต่อกับ จ.กระบี่ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายรัฐธี ชัยศรีรักษ์ อายุ 44 ปี และบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อนายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี ทั้งคู่อยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี โดยมีนายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี อดีตกำนัน ต.ไทรทอง เป็นผู้ก่อเหตุและเป็นผู้แจ้งตำรวจทราบเหตุ เมื่อสายวันที่ 23 ธ.ค. นั้น
เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 25 ธ.ค. พ.ต.อ.ศุภกิจ ประยูรบุตร ผกก.สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับรายงานเหตุ นายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี อดีตกำนัน ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้ผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่
ที่เกิดเหตุมีนายอาวุธ พักอยู่คนเดียว โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ลูกชายได้เดินทางจะไปรับตัวนายอาวุธ เพื่อมาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ชัยบุรี นำไปชี้จุดเกิดเหตุยิงผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่พบว่านายอาวุธได้ใช้ผ้าขาวม้า ผูกคอตายกับราวบันไดบ้าน ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้องและชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุกลุ่มญาติได้ไล่กลุ่มผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งให้ออกไปจากที่เกิดเหตุ และไม่อนุญาตให้ทำข่าว โดยอ้างว่าครอบครัวได้รับความบอบช้ำจากการเสนอข่าวของสื่อมามากแล้ว
พ.ต.อ.ศุภกิจ กล่าวว่า เมื่อคืนยังโทรศัพท์พูดคุยกับนายอาวุธ นัดพบกันเวลา 09.00 น. ที่ สภ.ชัยบุรี ซึ่งนายอาวุธยินดีจะไปชี้จุดเกิดเหตุ และให้ตำรวจพาไปออกหมายขังที่ศาลจังหวัดเวียงสระ เพราะหลังก่อเหตุไม่ได้คิดหลบหนี และเป็นผู้แจ้งเหตุกับตำรวจรอมอบตัวด้วยตัวเอง ซึ่งไม่คาดคิดว่าจะตัดสินใจแบบนี้
อดีตกำนันปืนดุ ฉุน 3 หนุ่มบุกสวนตัดปาล์มรัว .357 ใส่ 3 นัดดับ 1 เจ็บ 1…
“วันนี้ทางตำรวจมีความตั้งใจว่าจะไม่พากำนันไปชี้ที่เกิดเหตุ เนื่องจากพบว่าฝ่ายผู้เสียชีวิตมีความโกรธและเกรงอาจจะมีการทำร้ายกัน จึงเปลี่ยนแผนที่จะไม่นำผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุ แต่จะนำไปออกหมายขังที่ศาลจังหวัดเวียงสระในวันนี้” พ.ต.อ.ศุภกิจ กล่าว
รายงานแจ้งว่า หลังนายอาวุธตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ได้มีความเครียดมาก ขออยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวตามลำพังคนเดียว โดยเรื่องที่ดินขายทอดตลาดได้เซ็นยินยอมไปแล้ว และมีเจ้าของใหม่เข้ามาทำประโยชน์ แต่มีปัญหาถูกลักขโมยปาล์มในสวนส่วนที่เหลือหลายครั้ง และล่าสุดอดีตกำนันอ้างว่าขณะตนเองเข้าไปตรวจสอบสวนปาล์มของตน ซึ่งอยู่ในผืนเดียวกันกับที่ธนาคารยึดไป พบว่าในส่วนของตน มีร่องรอยการแทงทำลายปาล์มสวนทลายที่ถูกแทง ตั้งอยู่ในสวนของเจ้าของใหม่ จึงได้เข้าไปพูดคุยจนเกิดการโต้เถียงกับลูกจ้าง 3 คน ที่เฝ้าสวนและแทงผลปาล์ม จนเกิดเหตุยิงขึ้นและยอมรับการทำผิด แต่มีการนำเสนอข่าวและการพูดคุยของชาวบ้านในลักษณะว่าอดีตกำนันหวงผลอาสิน ไม่ให้เจ้าของใหม่ไปเก็บเกี่ยว ทำให้อับอายและเครียดมาก ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี ว่าสาเหตุปมปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร