เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 163 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานที่ประชุมนั้น นายวันชัย สอนศิริ สว. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงว่า รัฐบาลจะมุ่งมั่นสร้างความสามัคคีให้จงได้ ขอสนับสนุนนโยบายนี้เต็มที่ เพราะหลายรัฐบาลเคยดำเนินการมา แต่ยังไม่สำเร็จ ทะเลาะกันมา 20 ปี เสียชีวิตเป็นร้อย ความเสียหายทางเศรษฐกิจนับ 2 ล้านล้านบาท และความเสียหายทางจิตใจที่ประเมินไม่ได้ มาจากฝ่ายการเมืองขัดแย้งกันลามไปถึงชาวบ้าน วันนี้ฝ่ายการเมืองสลายขั้วมาเป็นรัฐบาลร่วมกัน เป็นความสามัคคีที่เป็นรูปธรรมใน 20 ปี เมื่อพรรคการเมืองสามัคคีปรองดอง ขอให้รัฐบาลช่วยลบล้าง สลายบาดแผลไปยังทุกฝ่ายให้หันหน้ามาสามัคคีปรองดองเหมือนพรรคร่วมรัฐบาล คดีที่มีต่อกันทั้งแพ่งและอาญาจากความขัดแย้งการเมือง เลิกได้ควรเลิก รัฐบาลควรรีบดำเนินการโดยเร็ว เยียวยาไปด้วยกัน ถ้าทำได้ จะเกิดความปรองดองสมานฉันท์ อยากให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม เพราะเป็นความหวังประชาชน  รัฐบาลที่ผ่านๆ มาไปไม่รอด เพราะพรรคร่วมรัฐบาลทะเลาะกัน ทุจริต ไม่มีผลงาน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับรัฐบาลเศรษฐา

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การทำประชามติเพื่อไปจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่นั้น พรรคไทยสร้างไทย พร้อมสนับสนุนพร้อมผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้สำเร็จโดยเร็ว แต่ต้องยกเว้นหมวด 1 และ 2 และการแก้ต้องดำเนินการผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ พาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการอภิปรายในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างราบเรียบ เงียบเหงา มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่มากนัก โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและ ครม. ที่หลายคนไม่อยู่ในห้องประชุม ทำให้นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. ลุกขึ้นตำหนิว่า จะให้สมาชิกพูดให้ใครฟัง นายกฯ และรัฐมนตรีหายไปไหนหมด ขอให้ประธานฯ ช่วยตามหาคนหายหน่อย จะซักถามหรือเสนอแนะอะไรไป แต่ไม่มีใครฟัง แสดงว่าไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม บอกว่า คาดว่านายกฯ คงอยู่ข้างนอก เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่ไปดูให้ ทั้งนี้เนื้อหาการอภิปรายของ สว. ส่วนใหญ่ จะเป็นการพูดเพียงกรอบกว้างๆ ไม่ได้ลงลึกรายละเอียด เพราะมีเวลาอภิปรายเพียงคนละ 5 นาที ส่วนใหญ่จะตั้งข้อสังเกตและซักถามเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 และการตั้ง ส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะมีขอบเขตการแก้ไขแค่ไหน ตลอดจนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บาท ที่ตั้งข้อสังเกตจะนำเงินงบประมาณมาจากไหน และทำไมต้องแจกคนอายุ 16 ปีขึ้นไป

นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ สว. กล่าวว่า กรณีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” กำนัน ต.ตาก้อง จ.นครปฐม ที่เป็นผู้ต้องหาสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง กลางงานเลี้ยง ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คือ ตำรวจ มีส่วนสนับสนุน แต่อย่าเพิ่งโยนบาปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ควรรับฟังข้อมูลทุกภาคส่วน กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้มีคำถามว่า การที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ รมช.มหาดไทย จากพรรคเดียวกันเร่งดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลนั้น อยากทราบว่าจะขึ้นบัญชีกันอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไร ขอคำตอบในคำถามดังกล่าวให้ชื่นใจ ทั้งนี้ตนกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิตของกำนันนก จะอยู่จนถึงวันขึ้นศาลหรือไม่ หรือจะถูกทำในสิ่งที่ไม่ควรในกระบวนยุติธรรม ที่ต้องยึดนิติรัฐ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐ.