การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการสุดท้ายของปี “เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น” ชิงเงินรางวัลรวม 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 315 ล้านบาท ที่สนามวอลตันฮีธ กอล์ฟ คลับ ในเมืองเซอร์รี ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ปีนี้มีนักกอล์ฟไทยผ่านตัดตัว 4 คน ได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล, จารวี บุญจันทร์, โมรียา จุฑานุกาล และ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ
ปิดฉากการชิงชัยปรากฏว่า ลิเลีย วู นักกอล์ฟชาวอเมริกันวัย 25 ปี เจ้าของแชมป์เมเจอร์รายการ เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนเมษายน ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำร่วมกับ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ โปรสาวเจ้าถิ่น อยู่หนึ่งสโตรก วันสุดท้ายยังรักษาฟอร์มร้อนแรง หวดเพิ่มได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว คว้าแชมป์ไปแบบขาดลอยถึง 6 สโตรก ที่สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 พร้อมรับเงินรางวัลไป 1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 47.3 ล้านบาท ขณะที่ ฮัลล์ พลาดตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 73 รั้งรองแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 โดยมี ชิน จีไย จากเกาหลีใต้ ตามมาที่อันดับ 3 ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281
วู ซึ่งกลายเป็นนักกอล์ฟชาวอเมริกันคนที่ 9 ที่ชนะรายการเอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น และเป็นคนแรกในรอบ 24 ปี ที่ครองแชมป์เมเจอร์สองรายการในปีเดียวกัน เผยว่า “ชัยชนะครั้งนี้เกิดคาดมากหลังจากเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา ฉันต้องต่อสู้กับตัวเอง รู้สึกดีมากและมีความสุขจริงๆ วันนี้ฉันพยายามเล่นตามเกมของตัวเองทีละช็อต พยายามโฟกัสกับมันและสนุกกับเกม ฉันแทบไม่ได้ดูลีดเดอร์บอร์ดเลย รู้แค่ว่าทำได้ค่อนข้างดี และทำอย่างเพื่อให้อยู่ในเกมของตัวเองตลอดเวลา สัปดาห์นี้ฉันลงแข่งขันด้วยมายด์เซตที่ดี มีการพูดคุยกับทีมงานเกี่ยวกับแผนการเล่นในสุดสัปดาห์ และฉันก็ทำได้”
ทางด้าน จีน-อาฒยา ฐิติกุล โปรสาวมือ 11 ของโลก ทำผลงานดีสุดในกลุ่มนักกอล์ฟชาวไทย ด้วยการจบที่อันดับ 36 ร่วม โดยรอบสุดท้ายตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 76 จากการทำ 2 เบอร์ดี้ แต่เสียไป 6 โบกี้ สกอร์รวมสี่วัน 2 โอเวอร์พาร์ 290 ส่วนนักกอล์ฟไทยอีก 3 คน ว่าน-จารวี บุญจันทร์ ตีเกินอีก 4 โอเวอร์พาร์ 76 จบด้วยสกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 293 อยู่อันดับ 50 ร่วม, โม-โมรียา จุฑานุกาล ทำ 4 โอเวอร์พาร์ 76 สกอร์รวม 6 โอเวอร์พาร์ 294 อยู่อันดับ 56 ร่วม และ เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวม 11 โอเวอร์พาร์ 299 จบที่อันดับ 71
อาฒยา นักกอล์ฟวัย 20 ปี ซึ่งเคยครองรางวัล สมิธ ซัลเวอร์ สองปีติดต่อกัน ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำผลงานดีที่สุดในรายการนี้ เมื่อปี 2018 และ 2019 กล่าวว่า “สภาพสนามวันนี้ไม่ต่างจากเมื่อวานมากนัก มีแค่เรื่องลมที่เบากว่านิดหน่อย วันนี้มีหลายอย่างที่ดี แต่ก็มีหลายอย่างที่ต้องไปปรับปรุง ตลอดการเล่นก็พยายามโฟกัสในเรื่องดีๆ และไม่ไปคิดถึงข้อผิดพลาด ซึ่งการเล่นกับลมค่อนข้างยาก ดังนั้นทั้งทักษะและหลายๆ อย่างต้องสมบูรณ์แบบจริงๆ มาเล่นที่สนามแห่งนี้ ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นผู้คนที่นี่ให้ความสนใจกอล์ฟกันเยอะ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของกีฬากอล์ฟ จบจากรายการนี้ ก็จะกลับไทยได้พักนิดหน่อย ก่อนจะบินไปแข่งเกาหลีต่อ”
ส่วนมือท็อปของโลกอย่าง เนลลี คอร์ดา มือหนึ่งของโลกจากสหรัฐ พลาดตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวมเหลือ 2 อันเดอร์พาร์ 286 หล่นไปอยู่อันดับ 11 ร่วม และ โค จิน-ยอง มือสองโลกจากเกาหลีใต้ ตีเกินอีก 2 โอเวอร์พาร์ 74 จบด้วยสกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 289 รั้งอันดับ 30 ร่วม
