ตามที่เจ้าคณะ อ.สัตหีบ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ม.157 โดยได้ส่งสำนวนคดีไปยัง ป.ป.ช. และยึดทรัพย์สินของพระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ รวมทั้งเครือญาติ เนื่องจากพบว่า มีการเชื่อมโยงธุรกิจจีนที่เข้าไปขายพระปลอมในวัดนั้น
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผอ. รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เจ้าคณะ อ.สัตหีบ ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ (สมศักดิ์) เจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ม.157 โดยได้ส่งสำนวนคดีไปยัง ป.ป.ช. และยึดทรัพย์สินของพระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ รวมทั้งเครือญาติ เนื่องจากพบว่า มีการเชื่อมโยงธุรกิจจีนที่เข้าไปขายพระปลอมในวัด ซึ่งทาง พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ ยังให้การปฏิเสธในเรื่องจำนวนเงินกว่า 137 ล้านบาท พร้อมทั้งนำบัญชีเงินวัดมาแสดงต่อเจ้าคณะ อ.สัตหีบ พบว่ามีเงินอยู่ประมาณกว่า 3 ล้านบาทเท่านั้น โดยทางเจ้าคณะ อ.สัตหีบ มีอำนาจตรวจสอบเพียงบัญชีเงินวัด เช่นเดียวกับ พศ. ก็ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบบัญชีอื่นๆ ได้เช่นกัน นอกจากบัญชีของวัด และพระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ ก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธเรื่องจำนวนเงินดังกล่าวได้ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเส้นทางการเงินอื่นๆ พร้อมกันนี้ ทางเจ้าคณะ อ.สัตหีบ ก็ได้มีคำสั่งให้ พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ พักงานจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์แล้ว
นายอินทพร กล่าวต่อไปว่า เมื่อเป็นคดีความทางโลกแล้ว ขั้นตอนในการดำเนินการทางคณะสงฆ์ จะต้องหยุดลงก่อนจนกว่าการพิจารณาคดีความทางโลกจะสิ้นสุด จึงจะดำเนินการพิจารณาทางวินัยสงฆ์ ดังนั้นเจ้าคณะ อ.สัตหีบ จึงมีเพียงคำสั่งพักงานพระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐ จากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์เท่านั้น ส่วนการขยายผลตรวจสอบไปยังพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่อาจจะเกิดกรณีเช่นเดียวกับวัดเขาชีจรรย์ได้นั้น ขณะนี้ พศ. ได้ให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ภูเก็ต และกระบี่ เข้าหารือกับทางเจ้าคณะจังหวัดแล้ว และจะได้มีการวางแผนในการเข้าตรวจสอบตามวัดต่างๆ ต่อไป