ย้อนไป เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 63 เวลาประมาณ 19.21 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพนักงานของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่ามีสุนัขพันทางเพศผู้ สีน้ำตาลขาว อายุ 8 ปี หายตัวไปเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 ได้ติดตามหามาตลอด กระทั่งเวลา 17.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ก็พบว่าเสียชีวิตอยู่ในป่าข้างทางริมถนนด้านข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาในสภาพเน่าอืด เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ซึ่งผลการชันสูตรพบว่ามีการถูกทำร้ายอย่างทารุณ ซึ่งสุนัขดังกล่าวมีฉายาว่า “เตี้ย มช.” เป็นสุนัขที่ถือเป็นขวัญใจของเด็ก มช. และประชาชนที่พบเห็น หลังจากที่มีการสืบสวนและติดตามหาพยานหลักฐานอย่างหนัก จึงได้ทราบว่ามี ส.ต.ท.ปริญญา ปัญญาบุตร ตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าพี่เตี้ย มช.

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 ทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ได้เริ่มออกสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งได้มีการตัดสินคดีในวันนี้

ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวสบันงา นนธะระ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ พร้อมคณะได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีฆ่าสุนัข “เตี้ย มช.” โดยมีแฟนคลับของพี่เต้ย เดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมกับนำสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มีรูปภาพของพี่เตี้ยมาแจก แฟนคลับบางรายได้นำถุงผ้าสกรีนเป็นรูปพี่เตี้ย และใส่เสื้อผ้าที่มีข้อความเกี่ยวกับความน่ารักของพี่เตี้ย เดินทางมารอรับฟังผลการตัดสินคดีในวันนี้ด้วย

ด้าน นางสาวสบันงา นนธะระ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ กล่าวภายหลังจากขึ้นไปรับฟังคำพิพากษาตัดสินคดีจากศาลว่า คดีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ถือเป็นเคสตัวอย่างที่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เห็นว่าการทารุณกรรมสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย เป็นอาญาแผ่นดินที่รัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งคดีของพี่เตี้ย ศาลได้ยกฟ้องในเรื่องของการลักทรัพย์กลางคืนเนื่องจากเป็นการสืบทราบพยานหลักฐานที่ไม่ครบ และการยืนยันชัดเจนเรื่องการเป็นเจ้าของ แต่เราดีใจมากที่ศาลท่านได้ตัดสินในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และเป็นคดีที่ 8 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้ดำเนินการมา และได้ตัดสินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ส่วนเรื่องที่ทางผู้ก่อเหตุจะอุทธรณ์ต่อศาลหรือประกันตัวนั้นทางมูลนิธิฯ ก็จะดำเนินการคัดค้านการอุทธรณ์ดังกล่าวตามหลักฐานที่มี

ด้าน นางสาวทิวาทร ศิริรัตน์ และ นางสาววราภรณ์ อินสม ทีมแอดมินเพจเตี้ย มช. และเครือข่ายดูแลหมา มช. กล่าวว่า รู้สึกว่าศาลท่านมีเมตตามากไม่ว่าสัตว์จะมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของก็มีผู้ดูแล ก็มีการพิจารณาให้เป็นอย่างดี 3 ปีที่รอคอยก็ถือว่านาน การสืบความพยานหลักฐานนำเข้าตั้งแต่ชั้นสอบสวน สืบสวนแล้ว ในทีมสืบอาชญากรรมก็ดูอย่างละเอียด หลักฐานในคดีนี้มีมาก มีหลักฐานทั้งเหตุและผล มีนิติวิทยาศาสตร์ ศาลพิพากษาตามหลักฐานที่มี ถือเป็นพระคุณอย่างมาก และเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับ “เตี้ย มช.” บ้าง ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากที่ได้ส่งหลักฐานต่าง ๆ มาให้ การรอ 3 ปีนานไหม แต่การรอแล้วได้ความเป็นธรรมถือว่าสมกับการรอคอย.

สนั่น เข็มราช