จากไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากขึ้น จึงเกิดธุรกิจ “รถเช่าพร้อมคนขับ” ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการคนยุคนี้ โดยในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่คนที่ทำอาชีพนี้หรือธุรกิจนี้มักจะเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง หากแต่ปัจจุบันนี้ ในยุคที่เปิดกว้างทางโอกาส นี่ก็ทำให้มีผู้หญิงเข้ามาทำงานในอาชีพนี้หรือธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในจำนวนนี้ก็รวมถึงอีกหนึ่งสาวที่เคยเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล ที่ชื่อ “ป้อม-มสารัศม์ เศรษฐพงษ์ธนน” สาวสวย “โชเฟอร์เกิร์ล” ที่ทำธุรกิจให้บริการรถเช่าพร้อมขับให้นั่ง ที่วันนี้ “ทีมวิถีชีวิต” จะพาไปทำความรู้จักกับเส้นทางชีวิตของเธอ…

ป้อมมสารัศม์ สาวสวยโชเฟอร์เกิร์ลเจ้าของเรื่องราว เล่าให้เราฟังว่า ตอนนี้เธออายุ 42 ปี และปัจจุบันนอกจากทำธุรกิจบริการรถเช่าพร้อมคนขับแล้ว เธอยังทำอาชีพเสริมด้วยการขายอาหารเสริมกับเครื่องฟอกอากาศไปพร้อมกันอีกด้วย โดยเธอเล่าถึงชีวิตให้ฟังว่า เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของคุณพ่อคุณแม่ มีพี่สาวที่แต่งงานแยกออกไปมีครอบครัวเองแล้ว ส่วนตัวเธอยังไม่ได้แต่งงาน ครอบครัวเธอนั้นพื้นเพเป็นคน จ.ชุมพร โดยคุณพ่อของเธอมีอาชีพเป็นจิตรกรวาดภาพในโรงหนัง ที่ปัจจุบันโรงหนังนี้ได้เลิกกิจการไปแล้ว ส่วนคุณแม่นั้นมีอาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง ซึ่งทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้วางมือจากการทำงานแล้ว เพราะทั้งสองอายุมากแล้ว ทำให้เธอจำเป็นจะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักดูแลคุณพ่อคุณแม่

ทั้งนี้ หลังเธอเรียนจบปริญญาตรี จบจากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เธอยังไม่ได้มายึดอาชีพขับรถเช่าแบบวันนี้ แต่เริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นเซลส์ขายรถยนต์อยู่นานถึง 8 ปี แล้วก็ได้ลาออกมาค้าขายออนไลน์ โดยเธอขายสินค้าแบบระบบ Dropship (ดรอปชิป) หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ ขายของโดยไม่ต้องมีสต๊อกสินค้า ยกตัวอย่างเช่นการเอาสินค้าจากอีเบย์ (eBay) มาโพสต์ขายในเว็บไซต์อเมซอน (AMAZON) พอมีลูกค้ามาซื้อแล้วเธอก็จะสั่งที่อีเบย์แล้วให้ทางเจ้าของสินค้าส่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกาเลย

ช่วงแรก ๆ ก็โอเค เพราะคนยังทำน้อย ยิ่งช่วงโควิดเรียกว่าดีมาก แต่ก็ดีแค่สักพักหนึ่ง แล้วก็ดาวน์ลงเรื่อย ๆ เพราะคนเริ่มเข้ามาสู่ตลาดออนไลน์เยอะขึ้น จนเริ่มไม่ไหว เพราะคู่แข่งเยอะขึ้นมาก ทำให้จากที่มีกำไรก็ไม่มีกำไร และเริ่มเข้าเนื้อเรื่อย ๆ จนต้องขายบ้านปิดหนี้ และย้ายมาอยู่บ้านเช่าในปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นก็มีคนเคยถามว่า ทำไมเราไม่กลับไปเป็นเซลส์ขายรถล่ะ เราก็บอกเลยว่า เราเบื่อการขายรถมาก เพราะวงการรถยนต์มันเริ่มอยู่ยากตั้งแต่นโยบายรถคันแรกแล้ว ตอนนั้นโชว์รูมจะรับเซลส์เยอะมากเพื่อไปแย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ทำให้เซลส์อยู่ยาก จนบางทีก็ไม่มีเงินเดือนให้ หรือบางเดือนเหมือนไปทำงานฟรี ซึ่งเราไม่อยากอยู่ในภาวะแบบนั้นแล้ว จึงชอบทำงานส่วนตัวมากกว่า เพราะเราได้จัดการตัวเองได้ จัดสรรเวลาของเราเองได้ป้อมเล่าถึงจังหวะชีวิตด้านอาชีพการงาน

กับคุณแม่และคุณพ่อ

ส่วน จุดเริ่มต้น ในการเข้าสู่ อาชีพโชเฟอร์ กับ บริการรถเช่า นั้น เรื่องนี้เธอบอกว่า ก่อนจะมาทำอาชีพนี้ ก่อนหน้านั้นเธอไปอยู่ที่หัวหินมาสักพักหนึ่ง ทีนี้พอจะขึ้นกรุงเทพฯ ก็มีเพื่อนจองรถเช่าพร้อมกับคนขับให้เธอใช้โดยสารกลับมา ซึ่งเมื่อเธอได้ใช้บริการนี้ เธอก็แปลกใจ และสงสัยว่าอาชีพแบบนี้ก็มีอยู่ด้วยหรือ ระหว่างที่ใช้บริการเธอจึงสอบถามข้อมูลรายละเอียด จึงรู้ว่ารถที่ใช้บริการนี้ไม่ได้จองเข้าระบบแอปพลิเคชันโดยตรง แต่มารับเอง เธอก็คิดในใจตอนนั้นว่า เธออยากลองทำเป็นอาชีพเสริมดู จนเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางในอาชีพนี้ ตอนนั้นลองเปิดรับงานแค่อาทิตย์เดียวเอง แต่ปรากฏมียอดคนติดตามเยอะมาก ๆ จาก 7,700 กว่าคน ก็เป็น 11,000 คน แล้วก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาเยอะมาก เราก็เลยคิดว่าลองทำไปดูก่อน เพราะธุรกิจอาหารเสริมที่เพิ่งทำมันก็ยังไม่ลงตัว จะได้เอารายได้ตรงนี้ไปช่วยธุรกิจและเลี้ยงดูพ่อแม่ก่อน แต่ตอนแรกที่เราบอกว่าจะทำอาชีพนี้ คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงมาก บ่นตลอด เพราะท่านมองว่ามันอันตราย แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ของเรา อีกอย่างเราคิดว่า ถ้าผู้เช่าไม่รับกฎที่ตั้งไว้ เราก็ไม่รับงาน แค่นั้นเอง

ป้อมเล่าอีกว่า หลังทำอาชีพนี้ไประยะหนึ่ง ปรากฏทำแล้วดี และเริ่มมีลูกค้าใหม่ ๆ ติดต่อเข้ามาใช้บริการเยอะขึ้น แต่ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้เธอยิ่งต้องสแกนหรือคัดกรองลูกค้ามากขึ้นจากเดิม เพราะเธอมีลูกค้าหลากหลายแนว อย่างไรก็ตาม เธอก็ยอมรับว่า แม้จะพยายามสแกนแล้ว แต่ก็ทำได้แค่เบื้องต้น จึงอาจจะมีหลุด ๆ มาบ้าง โดยเธอเล่าว่า จากที่เคยเจอ ก็เช่น ไม่ยอมโอนเงินก่อนเพื่อจองรถ หรือบางคนใช้บริการแล้วกลับชวนเธอกินข้าวต่อ หรือประเภทขอเจอตัวก่อนใช้บริการก็มี

ในลุคสวยเฉี่ยวนอกเวลาเป็นสารถี

อย่างเคสที่ขอเจอตัวจริงก่อน เราก็ไปนะ พอไปเจอก็เห็นเขานั่งกินเบียร์ กินสักพักเขาก็บอกง่วงนอน ให้เราไปส่งโรงแรมใกล้ ๆ หน่อย ซึ่งดูทรงแล้วส่อเจตนาไม่ดี ก็ระวังตัว โดยเรามีวิธีป้องกัน เช่น เราจะเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าขอตัวกลับก่อน เพราะมีธุระ และอะไรต่าง ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นกับสถานการณ์ ส่วนที่เจอบ่อย ๆ ที่เจอเยอะ ๆ นั้น ก็จะออกแนวลามก เช่น บางคนพูดว่า เช่ารถพร้อมคนขับแล้ว มีอย่างอื่นแถมด้วยมั้ย เป็นต้น ซึ่งถ้าเจอแนวลามก เราก็จะด่าเลยค่ะ เพราะเราไม่ทนกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ป้อมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ก่อนจะเล่าต่อว่า จริง ๆ ตอนแรกที่ทำอาชีพนี้ ไม่มีกฎกติกาอะไรตั้งไว้ แต่หลังจากเจอเคสคนไม่ดีเข้า เธอก็เลยต้องตั้งกฎกติกาขึ้นมา อาทิ ขอเก็บเงินมัดจำใช้บริการก่อน หรือไม่ก็ลูกค้าที่จองใช้บริการจะต้องส่งบัตรประชาชนให้ก่อน ซึ่งก็เคยมีลูกค้าผู้หญิงสอบถามว่า ผู้หญิงด้วยกันก็ต้องให้ด้วยหรือ เธอก็จะอธิบายว่า ต้องรบกวนจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาเธอเคยเจอเคสไม่ดีมาเยอะ จึงขอระวังตัวเอาไว้ก่อน พอเขาได้ฟัง เขาก็ยอม ซึ่งพอเขาส่งบัตรประชาชนให้ เธอเองก็จะส่งให้ลูกค้ากลับไปเช่นกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความมั่นใจ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย และสำหรับการว่าจ้างหรือใช้บริการนั้น เธอบอกว่ามีลูกค้าหลากหลายอาชีพมาก และสถานที่ที่ไปส่งก็มีหลากหลายไม่แพ้กัน เช่น พาไปดู ฮวงจุ้ย, พาไปตระเวนดูบ้านหรือที่ดิน, พาไปเยี่ยมญาติ, พาไปรับลูกค้าที่สนามบิน หรือแม้แต่รับ-ส่งไปโรงพยาบาล โดยที่ทำให้ดีใจคือเวลาที่ลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการซ้ำ

ส่วน ขั้นตอนบริการ นั้น เธออธิบายว่า หลังจากลูกค้าโอนเงินจองรถตามวันเวลาที่ตกลงไว้แล้ว ก็ยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ลูกค้าต้องปฏิบัติ อาทิ ค่าเช่ารถต่อวัน จะเริ่มต้นที่ 1,300 บาท สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ต้องคิดเพิ่ม โดยกรณีที่ต้องค้างคืน ลูกค้าต้องแยกห้องนอนกับเธอ โดยลูกค้าเป็นผู้จ่ายค่าที่พักให้ ขณะที่ค่าน้ำมันกับค่าทางด่วนแยกชำระต่างหาก หรือหากมีค่าจอดรถ ลูกค้าก็เป็นคนจัดการ และถ้าใช้บริการนานเกิน 8 ชั่วโมง ก็ขอคิดโอทีชั่วโมงละ 200 บาท ทั้งนี้ จุดเด่นสำหรับการให้บริการของเธอก็คือ ลูกค้าอยากแวะที่ไหนก็แจ้งได้ตลอด และเธอไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ 

ส่วนหนึ่งของกระแสตอบรับ

เรื่องโอที บางครั้งมันเกินไปไม่เท่าไหร่ เราก็ไม่เก็บ ก็เหมือนช่วย ๆ กันค่ะ ซึ่งเรามีลูกค้าที่ใช้บริการเป็นประจำทุก ๆ เดือน คือเคสพาคุณยายไปโรงพยาบาลและรับกลับ โดยคนที่จองคือหลานชายซึ่งอยู่ที่อรัญประเทศ เพราะเขาไม่สะดวกไป ๆ มา ๆ จึงติดต่อใช้บริการกับเรา โดยเรามีหน้าที่ดูแลพาคุณยายไปโรงพยาบาล เดือนละ 4 ครั้ง ซึ่งคงอาจเพราะเราเป็นผู้หญิงด้วยมั้ง เขาก็เลยไว้ใจให้เราช่วยดูแลตรงนี้ให้ บางทีไปส่งคุณยายแล้วเราก็รอที่ร้านกาแฟ เขารู้ว่าเรารออยู่ที่ร้านกาแฟก็โอนทิปมาให้เป็นค่าเครื่องดื่มก็มี เป็นเคสประทับใจจากลูกค้าประจำ

ป้อมยังบอกเล่าอีกว่า แม้จะทำอาชีพนี้มาไม่นาน แต่เธอก็คิดว่าอาชีพนี้ก็โอเคไม่แพ้อาชีพอื่น ๆ ซึ่งที่ผ่านมาเธอทำงานมาค่อนข้างเยอะ ทั้งขายรถ ขายบ้าน ขายวัสดุก่อสร้าง ขายของ จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะมาทำอาชีพนี้ และเธอก็มองว่าทุกอย่างที่เข้ามาคือโอกาส โดยที่เธอเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะหยุดอยู่แค่อาชีพนี้…

ในแง่รายได้ก็โอเคนะ อย่างบางวันมีจอง 3 เคสชนกัน เราก็ส่งต่อให้เพื่อน ๆ ผู้หญิงด้วยกันรับงานไป และหลัง ๆ ก็มีคนทักมาในเฟซบุ๊กว่า ขอมาวิ่งงานด้วยได้ไหม ซึ่งถ้างานเราล้นมือ รับไม่ได้แล้ว เราก็แจ้งลูกค้าว่าถ้าเราไปไม่ได้ให้เพื่อนไปได้ไหมคะ ถ้าลูกค้าโอเคก็ส่งงานต่อให้ แต่เราก็สแกนให้คนขับก่อน และสแกนให้ลูกค้าก่อนด้วยนะ รถสะอาดไหม พูดจามารยาทโอเคไหม ประมาณนี้ ส่วนตัวเองงานใกล้งานไกลเราไปหมด แต่ถ้าเป็นเคสที่ต้องทำเวลา แล้วต้องวิ่งไกล ๆ เรามักไม่ค่อยรับ เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เป็นกฎเหล็กเล็ก ๆ ของเธอ

ทั้งนี้ เธอยังเผยอีกเรื่องหนึ่งให้ “ทีมวิถีชีวิต” ฟังว่า ปัจจุบันคนขับรถผู้หญิงเป็นที่ต้องการมาก โดยเท่าที่สังเกตคือ ลูกค้าจะชอบคนขับที่เป็นผู้หญิง เพราะความสะอาดสะอ้าน ใจเย็น ไม่ขี้โมโห ละเอียดรอบคอบ ขับไม่เร็ว มารยาทดี และที่สำคัญ คนขับผู้หญิงกลิ่นตัวจะซอฟต์กว่าผู้ชาย ส่วนเวลาที่เธอเองไปทำงานนั้น เธอจะแต่งตัวเสื้อยืดคอกลมสีสุภาพ กางเกงขายาว แต่ถ้าเป็นเคสลูกค้าไปเที่ยว ก็จะแต่งให้สดใสขึ้นนิดหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าผ่อนคลาย ดังนั้นเวลาเธอรับงานก็จะต้องถามลูกค้าก่อนว่าไปงานอะไรแนวไหน

และทิ้งท้าย ป้อมมสารัศม์ สาวสวยโชเฟอร์เกิร์ล บอกว่า… ความคิดที่ว่าผู้หญิงขับรถแย่กว่าผู้ชาย ตรงนี้ขึ้นกับแต่ละคน ซึ่งในฐานะที่ขายรถมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเหยียบเบรกบ่อย เพราะขี้ตกใจ และอาจไม่ค่อยรู้วิธีใช้คันเร่ง หรืออาจจะเบรกอย่างไม่ถูกต้อง แต่ของแบบนี้ป้อมเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้กันได้ พร้อมกันนี้เธอยังเล่าด้วยว่า… ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเคยบอกว่าใช้บริการของเราเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า และเป็นผู้หญิงด้วยกัน

คุยกันรู้เรื่องมากกว่า“.

ลุ้นฝัน ‘เครือข่ายโชเฟอร์เกิร์ล’

อีกประเด็นที่ “ป้อม-มสารัศม์ เศรษฐพงษ์ธนน” เผยไว้กับ “ทีมวิถีชีวิต” คือ… ในอนาคต ถ้าอาชีพนี้ดีจริง ๆ เธออาจผันตัวเองไปทำหน้าที่เป็น “แอดมินกลุ่ม” โดยหากเป็นไปได้ เธอก็ฝันที่จะ “สร้างเครือข่ายโชเฟอร์เกิร์ล” เช่นกัน เพราะมีคนทักมาใช้บริการเยอะมาก และเธอก็ส่งต่องานไปให้คนอื่นเยอะเช่นกัน แต่ตอนนี้คงขอดูสถานการณ์ไปก่อนสักพักหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวก็เชื่อว่า… ในอนาคตบริการแบบนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลายคนไม่สะดวกที่จะขับรถเอง หรือบางคนมองว่าการซื้อรถเป็นภาระก้อนใหญ่ และอีกส่วนก็คือ… ’ในอนาคตจะมีผู้สูงอายุที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนเองมากขึ้น เช่น ไปโรงพยาบาล บริการแบบนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดี“.

เชาวลี ชุมขำ : รายงาน