สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงสถานการณ์วุ่นวายภายในรัสเซีย จากการลุกฮือของกองกำลังนักรบรับจ้าง “วากเนอร์” เพื่อต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โดยเฉพาะพล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กระทรวงกลาโหม และพล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ว่า “รัสเซียกำลังอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด”
ขณะเดียวกัน เซเลนสกีกล่าวว่า การแข็งข้อของวากเนอร์ยิ่งสะท้อนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลมอสโกทำโฆษณาชวนเชื่อ “เพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเอง” ก่อนกล่าวต่อไปว่า ตราบใดที่รัสเซียยังคงประจำการทหารและบรรดานักรบรับจ้างเหล่านี้ไว้ในยูเครน ปัญหาทั้งหมดจะย้อนศรกลับไปที่รัสเซียเองมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกับวากเนอร์ เป็นไปอย่างตึงเครียด โดยนายเยฟเกนี พริโกซิน ซึ่งเป็นผู้นำของวากเนอร์ แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก เกี่ยวกับความสนับสนุนทางทหารของรัฐบาลมอสโก และประกาศ “จะดำเนินการด้วยทุกวิถีทางที่จำเป็น” เพื่อ “โค่นล้มกลุ่มผู้ครองอำนาจสูงสุดทางทหารในกรุงมอสโก” และ “จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางทาง”
ทั้งนี้ สำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ ( เอฟเอสบี ) ประกาศการสอบสวนพริโกซิน ฐานกระทำการ “ขบถทางอาวุธ” ซึ่งเข้าข่ายการปลุกระดมให้เกิดสงครามกลางเมือง และเป็นการแทงข้างหลังต่อกองทัพรัสเซีย
ขณะที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประณามผู้นำวากเนอร์ กำลัง “ทรยศ” ต่อรัสเซีย “ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงส่วนตัว” พร้อมทั้งยืนกรานว่า “สงครามกลางเมือง” จะไม่มีทางเกิดขึ้นบนแผ่นดินรัสเซีย และ “คนทรยศทุกคน” ในวากเนอร์ ต้องได้รับโทษตามกฎหมายของรัสเซีย “การก่อการกบฏทางอาวุธ” ถือเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อรัสเซีย.
เครดิตภาพ : AFP