สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่า นายโนบุโอะ คิชิ รมว.กลาโหมของญี่ปุ่น ให้การต้อนรับเรือหลวงควีน เอลิซาเบธ แห่งราชนาวีสหราชอาณาจักร ซึ่งจอดเทียบท่าที่เมืองโยโกซุกะ ในจังหวัดคานางาวะ ริมชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ โดยแสดงความชื่นชมการปรากฏตัวของเรือหลวงลำนี้ ว่า "มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงสัญลักษณ์" เพื่อรักษาและส่งเสริมความมั่นคง ในภูมิภาค ตลอดจนเสรีภาพด้านการเดินเรือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ขณะที่ เจ้าหน้าที่สตีฟ มัวร์เฮาส์ ผู้บังคับการเรือหลวงควีน เอลิซาเบธ กล่าวว่า ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การปรากฏตัวของเรือหลวง ควีน เอลิซาเบธ ไม่เพียงแต่สะท้อนอิทธิพล และการมีส่วนร่วมของสหราชอาณาจักร ในด้านการรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคง และการขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปี ความร่วมมือกลาโหม "ไฟฟ์ อายส์" ร่วมกับมาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในปีนี้
นายโนบุโอะ คิชิ รมว.กลาโหมญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เรือหลวงควีน เอลิซาเบธ ซึ่งบรรทุกเครื่องบินขับไล่เอฟ 35บี จำนวน 8 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 14 ลำ ของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร พร้อมลูกเรืออีกประมาณ 1,700 นาย และกองเรือติดตามอีก 6 ลำ เดินทางออกจากสหราชอาณาจักร เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปจนถึงทะเลแดง อ่าวเอเดนในทะเลอาหรับ และมหาสมุทรอินเดีย เรื่อยไปจนถึงทะเลจีนใต้ โดยเรือมีแผนการจอดเทียบท่าใน 40 ประเทศ รวมถึงอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์
อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นายเบน วอลเลซ รมว.กลาโหมของสหราชอาณาจักร เยือนกรุงโตเกียวอย่างเป็นทางการ และประกาศตั้งแต่ตอนนั้นว่า หลังจากเรือหลวงควีน เอลิซาเบธ เดินทางออกจากญี่ปุ่น รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีแผนประจำการเรือรบ 2 ลำ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก.

เครดิตภาพ : AP