เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านคลัง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาเพื่อเยี่ยมชมการจัดระบบการจัดส่งน้ำยาล้างไต ยา และเวชภัณฑ์ ถึงบ้านผู้ป่วยในพื้นที่อุทกภัย โดยนพ.จเด็จ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อเยี่ยมชมระบบการดูแลผู้ป่วยโรคไตที่ประสบอุทกภัยว่ายังสามารถรับบริการด้านสุขภาพได้ และทีมงานของบริษัทไปรษณีย์ไทยฯ จะสามารถจัดส่งน้ำยาล้างไตให้ถึงมือผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องทำการล้างไตทางหน้าท้องได้ ซึ่งพื้นที่นี้เกิดน้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว แต่จากการติดตามสถานการณ์พบว่าไม่มีผู้ป่วยที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเกิดปัญหาใดๆ
นอกจากนี้ ยังมาดูว่ายังมีสิ่งใดที่ สปสช. จะต้องเพิ่มเติมเข้าไปในระบบการดูแลผู้ป่วยอีกบ้าง โดยกลุ่มที่ สปสช.เป็นห่วงมากที่สุดคือกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นมา การขนย้ายออกจากพื้นที่จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นจึงถือโอกาสลงมาดูระบบต่างๆที่เตรียมไว้รองรับด้วย และขอถือโอกาสประชาสัมพันธ์ว่าขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) เพื่อจัดหายานพาหนะเข้ามารับส่งผู้ป่วยได้ สำหรับพื้นที่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอุธยานั้น ตนค่อนข้างมั่นใจว่าระบบของเรามีการประสานงานเรียบร้อย และ รพ.พระนครศรีอยุธยาได้มีการวางแผนติดตามดูแลผู้ป่วยที่ดี ทำให้คนไข้มีความมั่นใจต่อระบบบริการ
พญ.เสาวลักษณ์ ชาวโพนทอง อายุรแพทย์โรคไต รพ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โรงพยาบาลได้วางแผนการรับมือ เช่น คอยติดตามสถานการณ์ระดับน้ำ การคาดการณ์พื้นที่น้ำท่วมและสำรวจว่าพื้นที่ที่มีคนไข้อยู่ จากนั้นจะเบิกน้ำยาล้างไตและยาต่างๆ ให้คนไข้เร็วขึ้น ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับ 2-3 เดือน นอกจากนี้ ยังมีการรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ของคนไข้ แลละการตั้งกลุ่มไลน์เพื่อติดต่อให้คำแนะนำกับคนไข้โดยตรง โดยปัจจุบันมีพื้นที่ อ.บางบาล และ อ.บางไทร ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ปีนี้น้ำท่วมไม่รุนแรง มีผู้ป่วยเพียง 4 รายที่บ้านถูกน้ำท่วมแต่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ดี ไม่พบปัญหาการติดเชื้อ ส่วนผู้ป่วยรายอื่นๆ ยังสามารถไปฟอกเลือดหรือล้างไตทางหน้าท้องได้ตามปกติ ประเมินดูแล้วคาดว่าปีนี้น่าจะผ่านสถานการณ์ได้
ด้าน นายพีระ กล่าวว่า ไปรษณีย์ฯมีประสบการณ์จากอุทกภัยมาหลายรอบ จึงได้เตรียมการตั้งแต่สถานที่จัดเก็บน้ำยาล้างไตที่อยู่บนพื้นที่สูง เมื่อมีเหตุน้ำท่วมจะติดต่อประสานกับผู้ป่วยว่าพร้อมให้เข้าไปส่งน้ำยาหรือไม่ หากผู้ป่วยพร้อม ทางไปรษณีย์ฯก็จะหาช่องทางต่างๆในการเข้าไปจัดส่งให้ ถ้าผู้ป่วยไม่พร้อม ก็จะส่งไปที่สถานที่สำรองเพื่อรอให้ผู้ป่วยมารับไป รวมทั้งมีระบบ Tracking ติดตามความคืบหน้าในการจัดส่งและรายงานให้ สปสช. รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาในการจัดส่งแต่อย่างใด
ขณะที่ นางชยุตา กลิ้งโพธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านคลัง กล่าวว่า ตำบลบ้านคลังประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี แต่ละครั้งนาน 2-3 เดือน ซึ่งทาง อบต. ได้จัดเตรียมเรือรับส่งผู้ป่วยไปขึ้นรถที่ถนนในกรณีที่ต้องไปโรงพยาบาล แต่งบประมาณในการจัดหายานพาหนะรับส่งผู้ป่วยยังใช้งบประมาณของ อบต. เป็นหลัก เพราะแม้ว่าขณะนี้ สปสช. จะเปิดให้ใช้เงินจากกองทุน กปท. มาจัดหายานพาหนะได้ แต่เนื่องจากงบประมาณรายหัวของ กปท.บ้านคลัง มีน้อย เพียงปีละประมาณ 100,000 บาท ดังนั้นหากดึงเงินส่วนนี้มาทำโครงการรับส่งผู้ป่วยก็จะมีงบไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนโครงการอื่นๆ.