เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” โดยระบุว่า
ประเทศไทยเข้าสู่ยุคที่ 6 แล้ว งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา เป็นสุภาษิตจีนที่จริงเสียกว่าจริงมานับพันปี จักรวาลก็มีวันจบ โลกที่เราอยู่ก็มีวันสุดสิ้น จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในอดีตไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว จักรพรรดิประธานาธิบดี รวมถึงผู้นำที่ยิ่งใหญ่ทุกคนล้วนต้องพ่ายต่อกาลเวลา
นายกฯประยุทธ์อยู่มาได้ 7 ปี นับเป็นที่สามรองจากท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม และท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยาวนานมากนะครับโดยเฉพาะจากจุดเริ่มต้นที่ดูไม่ดีเอามากๆ เช่น การใช้กำลังเข้ายึดอำนาจและเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ที่พวกท่านเรียกว่า เขียนเพื่อพวกเรา แต่ท่านก็เคยทำประโยชน์และความดีอยู่เช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้คนจะเเซ่ซ้องสรรเสริญ เท่าๆกับการตำหนิสิ่งที่เขาคิดว่าไม่ดี
เหตุการณ์ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีหลายสิ่งบอกเหตุว่า วาระของท่านกำลังจะจบลง ในสังคมนักการเมืองดูออกว่า ท่านกำลังมีปัญหาในการนำ ดูออกว่า คนในพรรคของท่านจำต้องตีจากเพราะสัมผัสได้ว่าประชาชนไม่เอาแล้ว ขืนไม่แสดงออกหรือยังอยู่ด้วยอาจสอบตกได้ เหตุครั้งนี้ดูเผินๆเหมือนจะคลี่คลาย เเต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก แก้วร้าวเเล้วไม่ใช่หิมะจึงไม่มีวันจะกลับมาเป็นเนื้อเดียวเหมือนเดิม
ผมอยากให้ท่านนายกประยุทธ์และพรรคพวกยอมรับความจริงเหล่านี้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการบริหารประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน ท่านสามารถภูมิใจกับสิ่งดีๆที่ท่านเคยทำ แต่ท่านก็ควรไตร่ตรองว่าอะไรดีๆที่ยังทำไม่หมดไม่สำเร็จ เช่นแก้ปัญหาโควิดจนประเทศปลอดภัย แก้รัฐธรรมนูญให้กลับเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด และรีบเร่งรัดอย่างน้อยก็เริ่มต้นการสร้างความเป็นธรรมในสังคมและให้มีขบวนการยุติธรรมเป็นที่เชื่อถือได้จริงๆ
แน่นอนท่านมีเวลาอีกหนึ่งปี แต่พวกผมไม่เชื่อว่าท่านจะอยู่ได้ไปนานเช่นนั้น และยิ่งไม่อยากจะคิดเลยว่า ท่านยังอยากจะอยู่ต่ออีก 4 ปี ผมอายุ 76 ปีเเล้ว ผ่านตำแหน่งที่สำคัญทั้งข้าราชการประจำเเละการเมืองมามากมาย (ยกเว้นการเป็นนายกฯ) รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ จบการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือมากกว่า ผมยังรู้ตัวเองว่าวันเวลานี้ไม่ใช่เป็นของคนรุ่นผมอีกเเล้ว เทคโนโลยีเปลี่ยนไปจนเราตามไม่ทัน สภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาที่สลับซับซ้อน คนรุ่นผมมองไม่ออกไม่กระจ่างเเล้ว สังคมและวิธีคิดของคนปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก ผมมีหลาน 5 คน คนโตอยู่มหาวิทยาลัย คนเล็กอยู่อนุบาล ผมก็พูดกับเขาไม่รู้เรื่องบ่อยครั้งเหมือนกัน ท่านนายกฯก็เป็นมนุษย์ปุถุชนเหมือนผมเช่นกันจึงไม่มีข้อยกเว้น ท่านปล่อยอนาคตให้คนรุ่นใหม่เขาบริหารจัดการเถิดครับ เพราะอนาคตเป็นของเขา ต่างกับเราซึ่งเป็นเพียงเจ้าของอดีต
ผมยืนยันว่า ไม่ได้มีอคติใดๆ ผมอยากแนะนำให้ท่านประกาศวางมือทางการเมือง พร้อมเสนอแผนการเปลี่ยนผ่านอำนาจการบริหารจัดการบ้านเมืองทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในรูปเเบบที่คาดว่าทุกคนทุกหมู่เหล่าจะยอมรับ ที่ผมพูดอยู่นี้ไม่ใช่ของใหม่อะไร ประเทศสิงคโปร์เขาทำมาตั้งแต่จุดกำเนิดประเทศของเขา
การสืบทอดอำนาจเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนผ่านที่มีการเตรียมการอย่างดีและรอบครอบตามระบบประชาธิปไตยในสภาวะของโลกที่กำลังผ่านเข้าสู่ยุคที่มากกว่า New normal ไปสู่ยุคที่ 6 (generation 6) นั่นเอง