เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายสมบัติ รุ่งแตงอ่อน หัวหน้าสายตรวจปราบปรามฯ สายที่ 2 ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 4 สปป.3 ภาคเหนือ ร่วมกันจับนายพิทักษ์ ทองสุข อายุ 40 ปี ชาว จ.ปทุมธานี โดยจับกุมได้พร้อมของกลาง ลิงแสม 6 ตัว อุปกรณ์เป่ายาสลบ และรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ ภายในวัดสำโรง หมู่ 2 ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ขณะเข้าไปก่อเหตุใช้ท่อเป่าลูกดอกอาบยาสลบยิงลิงแสม เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า นายพิทักษ์ กับพวกอีก 1 คน ที่หลบหนีไปได้ ลักลอบใช้เป่ายาสลบใส่ลิงแสมในบริเวณวัดสำโรง ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบพบกำลังก่อเหตุกันอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมแต่ผู้ต้องหาอีกคนไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจสอบภายในรถพบลิงแสม 6 ตัว ถูกจับแยกกันใส่ในถุงตาข่ายสีฟ้าและของที่ใช้ก่อเหตุจึงยึดไว้เป็นของกลาง สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า จะนำลิงที่แอบจับได้ไปขายที่จังหวัดพิจิตรตัวละ 1,000-1,500 บาท ส่วนลิงที่เลือกจับจะเป็นลิงที่มีน้ำหนัก 1-3 กิโลกรัม เพศไหนก็ได้แต่จะไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ทำเครื่องหมาย เช่น ทำสัญลักษณ์แสดงการผ่านการทำหมันมา เนื่องจากเสี่ยงถูกจับกุมได้ง่าย
นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่มีข่าวขบวนการค้าลิงข้ามชาติลักลอบจับลิงไทยส่งไปขายต่างประเทศ จึงได้กำชับให้เข้มงวดลงตรวจพื้นที่ตามวัดที่มีลิงอาศัยอยู่ พร้อมกับสร้างเครือข่าย ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้ง่ายต่อการแจ้งเบาะแสหรือแจ้งเหตุ พร้อมให้ข้อมูลการทำงานของเจ้าหน้าที่ไว้เพราะผู้ต้องหามักหลอกชาวบ้านว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาจับลิงไปปล่อยคืนป่า สำหรับลิงของกลางทั้ง 6 ตัว จะส่งให้นายสัตวแพทย์ ตรวจสุขภาพ ทำหมัน และดูแลจนลิงมีสุขภาพสมบูรณ์ดีแล้วจะนำไปปล่อยคืนที่วัดสำโรงถิ่นอาศัยเดิม สำหรับนายพิทักษ์ แจ้งข้อกล่าวหา 3 มาตราตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2562 ประกอบด้วย มาตรา 12 ประกอบมาตรา 89″ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต” และมาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป