เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือว่าสนุกตื่นเต้น สมกับเป็นการเจอกันของ 2 ทีมลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้

สกอร์ที่จบลง 1-1 ถ้าบอกว่ายุติธรรมดีแล้วก็อาจจะพูดได้ แม้แฟนบอล “หงส์แดง” อาจจะเสียดายเพราะได้เปรียบตัวผู้เล่นตลอดทั้งครึ่งหลัง แต่ “สิงห์สำอาง” ก็แสดงให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างที่ชี้ว่าพวกเขาก็สมควรมีแต้มกลับออกไปเช่นกัน

“หงส์แดง” จัดทัพเกมนี้โดยที่มี ฟาบินโญ กลับมาเป็นตัวจริงในแดนกลางร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเจ้าหนุ่ม ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซึ่งน่าจะเป็นแผงมิดฟิลด์ตัวหลักของทีมในช่วงนี้ หลังทีมเสียแกนหลักอย่าง จอร์จินโญ ไวจ์นัลดุม ออกไป และมี ติอาโก อัลคันทารา เป็นตัวสอดแทรกในระหว่างรอวันเรียกความฟิตให้กลับมาเต็มร้อย

ส่วน “สิงห์สำอาง” ของ โธมัส ทูเคิล ดูเหมือนจะมีทีมที่ลงตัวตั้งแต่ต้นฤดูกาล ยิ่งการได้ โรเมลู ลูกากู เข้ามาช่วยเก็บบอลในแดนหน้า ทำให้แทคติกของเขาแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่

ประตูแรกของ ไค ฮาร์แวร์ตซ์ ที่โหม่งท่าแปลกเข้าไปในนาทีที่ 22 สร้างความกังวลให้เหล่า “เดอะ ค็อป” ไม่น้อย เพราะก่อนหน้านั้นก็เป็น เชลซี ที่ดูเหมือนรูปเกมจะดีกว่าอยู่นิด ๆ

แต่จุดเปลี่ยนของเกมมาเกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เมื่อ มาเน จิ้มเผาขนระยะ 2 หลา บอลแฉลบเข่าขึ้นไปโดนแขนของ รีส เจมส์ ก่อนจะถูกเคลียร์ออกมา แต่สุดท้ายก็กลายเป็นจุดโทษจากการเช็ค วีเออาร์ แถม แบ๊กขวาดีกรีทีมชาติอังกฤษยังโดนใบแดงอีกต่างหาก และเป็น ซาลาห์ ที่สังหารเข้าไป

จังหวะนี้ทำเอาแฟน “สิงห์สำอาง” ฉุนขาด บางคนบอกไหนว่าบอลแฉลบขาไปโดนแขนโดยไม่เจตนาไม่เป็นแฮนด์บอล แต่ถ้าดูภาพช้ากันจริง ๆ เจมส์ มีการกระตุกแขนขวาใส่บอลเล็กหน้อย และมันน่าจะเป็นปัจจัยให้ผู้ติดสินให้จุดโทษ และเมื่อมันเป็นการใช้แขนป้องกันในจังหวะที่กำลังจะเป็นประตู ตามกฏมันก็ต้องเป็นใบแดง

ถามว่าโหดร้ายกับ เชลซี ไปมั้ยสำหรับจังหวะนี้ ก็ต้องบอกว่าใช่ แต่มันก็ช่วยไม่ได้เมื่อทุกอย่างมันเข้ากฏทั้งสิ้น

แต่ในช่วงครึ่งหลัง แม้ เชลซี จะเสียเปรียบตัวผู้เล่น แต่อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าพวกเขามีอะไรบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสมควรมีแต้มกลับออกไป และเป็นแต้มในเกมใหญ่ ท่ามกลางที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ ซึ่งต้องถือว่าเป็นแต้มสำคัญมาก ๆ

ส่วน “หงส์แดง” นั้น ถ้าดูจากสถานการณ์ในเกม แฟนบอลอาจจะบอกว่าไม่น่าพอใจ แต่ถ้าว่ากันตรง ๆ ก็ต้องบอกว่าอาจไม่ถึงกับเสียหาย เพราะถ้า 10 คนเท่ากันก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรเหมือนกัน

ส่วนถ้าถามว่าถึงตรงนี้ ทั้ง 2 ทีมดูดีพอที่จะลุ้นแชมป์ไปจนถึงโค้งสุดท้ายมั้ย? สำหรับ เชลซี ใช่แน่ แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล นั้น ความรู้สึกมันบอกว่ายังพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่นัก

เว้นเสียแต่ว่าในช่วงที่เหลือก่อนตลาดปิดรอบนี้ จะมีนักเตะใหม่เกรดดี ๆ เข้ามาเสริมเกมรุกสักคน…