เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลําภู มอบหมายให้ พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.พิทักษ์ กองทัพไทย ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.หนองบัวลำภู ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุและประเด็นเพิ่มเติม พร้อมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน กรณีมีการนำเสนอข่าวในโลกโซเซียลถึงมูลเหตุการเกิดเพลิงไหม้ห้องเก็บวัสดุรอการทำลายของ สภ.ศรีบุญเรือง เบื้องต้นพบว่าเกิดจากตู้คอลโทรลระบบไฟฟ้าของ สภ.ศรีบุญเรือง ระบบไฟฟ้าเกิดการระเบิดจนเกิดลุกลามไปยังบริเวณห้องข้างเคียง ผู้มองเห็นควันไฟพวยพุ่งและเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ต่อมา พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลําภู พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และได้นำชิ้นส่วนที่น่าจะเป็นชนวนก่อให้เกิดการระเบิดจนนำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้ส่งต่อไปยังกองพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาการที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4

ขณะเดียวกัน ที่ห้อง ศปก.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อัครฮาด รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ศรีบุญเรือง รรท.ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.นรินทร์ โคตรคำจันทร์ รอง ผกก.ป.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.รักษา ไชยนา สวป.สภ.ศรีบุญเรือง ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนถึงข้อเท็จจริงการเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ห้องเก็บของวัสดุเก่า ๆ ที่รอการทำลาย ซึ่งต้นเพลิงน่าจะเกิดจากตู้ควบคุมไฟฟ้าของ สภ.ศรีบุญเรือง เกิดการระเบิด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ภายในบริเวณโรงพักจึงระดมพลรุดมาช่วยกันควบคุมเพลิง พร้อมประสานรถดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จำนวน 5 คัน ก่อนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ประมาณ 20 นาที

นอกจากนี้ขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในห้องควบคุมผู้ต้องขังที่อยู่ติดกับห้องเก็บวัสดุขณะนั้นมีผู้ต้องขังจำนวน 1 ราย เป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เมาอาละวาดและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 5 มี.ค. เพื่อรอดูอาการและจะไปตรวจสุขภาพก่อนนำไปรักษา โดยสิบเวรสามารถนำตัวออกมาได้ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด และในขณะที่นำตัวผู้ต้องขังออกมาจากห้องควบคุมออกด้านหน้าของโรงพักศรีบุญเรือง พบว่าชาวบ้านได้มีการบันทึกภาพบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้และสังเกตอาการของชายผู้ที่ต้องขังมายืนดูเหตุการณ์ เลยทึกทักว่าอาจเป็นผู้วางเพลิง ซึ่งโดยข้อเท็จจริงตามระเบียบผู้ต้องขังทุกราย เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ควบคุมทุกคดีจะต้องมีการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยก่อนเข้าห้องควบคุม แม้แต่ญาติที่มาเยี่ยมก็ต้องมีการตรวจรายละเอียดและอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรยามอย่างใกล้ชิด

พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวทิ้งท้ายว่า ในขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนเร่งสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมสรุปและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับทราบโดยเร็วที่สุด และฝากเตือนไปยังผู้ที่โพสต์และแชร์ข่าวที่ไม่มีข้อมูลและข้อเท็จริง ให้ระมัดระวังในการเผยแพร่สารต่อสาธารณชนจนเกิดความเสียหายและเข้าใจผิดได้

หลังจากนั้น พ.ต.อ.อัษดิน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำสื่อมวลชนไปดูบริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้องและมีวัสดุที่ถูกไฟไหม้ ส่วนสาเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ผลการพิสูจน์ทางวิทยาการก่อนว่าเกิดจากประเด็นใดแน่นอน และในบ่ายวันเดียวกันนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคศรีบุญเรืองได้มาสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบไฟสายไฟที่ชำรุดเสียหาย โดยประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ 200,000 บาท ในขณะที่การให้บริการกับผู้มาติดต่อราชการ ยังสามารถดำเนินการร้องทุกข์ แจ้งความได้ตามปกติ