เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ส่งคำร้องผ่านระบบฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ นายพีรณัฐ แสงจันทร์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุจี้ตัวประกันบนรถเมล์ สาย 8 แจ้งข้อหา “หน่วงเหนี่ยวกักขังและข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ๆ โดยใช้อาวุธ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 24 ส.ค.- 4 ก.ย. 64 เนื่องจากจะต้องสอบพยานจำนวน 4ปาก, รอผลการตรวจอาวุธลักษณะคล้ายปืนพกสั้นจากกองพิสูจน์หลักฐานรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
พฤติการณ์สรุปคือ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายพีรณัฐ คนร้ายในคดีนี้ได้ใช้อาวุธปืนทำร้าย นายสายัณห์ (สงวนนามสกุล) คนขับรถประจำทางสาย 8 ก่อนจี้จับเป็นตัวประกันและยังบังคับให้ขับกลับไปบริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังจากมาถึงแยกแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ แล้ว แต่นายสายัณห์ ออกอุบายว่าขอเอารถไปเข้าอู่ก่อนจะหลบหนีออกจากตัวรถ ทำให้ นายพีรณัฐ หันไปจับตัว น.ส.นวลพรรณ (สงวนนามสกุล) พนักงานเก็บเงินค่าโดยสารรถประจำทางอยู่ในรถเป็นตัวประกันแทน
ภายหลัง นายพีรณัฐ ต้องการให้ข่าวกับสื่อมวลชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปลอมตัวเป็นนักข่าวเข้าไปเจรจา ก่อนอาศัยทีเผลอเข้าแย่งปืนและชาร์จจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปทนพกสั้นสีดำ 1 กระบอก จากการสอบสวนให้การอ้างว่า มีความเครียดเรื่องปัญหาส่วนตัว แต่พอหลังจากตรวจร่างกายแล้วพบว่า มีสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) ในปัสสาวะ ในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309,310 ทวิพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7,(1),57,91 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5 ) พ.ศ.2545 มาตรา 8 มาตรา 19 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ. ๒๕๖๑ลงวันที่ 31 ก.ค. 2561 ข้อ 1 บัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท1 พ.ศ.2561 ลำดับที่ 38
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
