สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล ซึ่งยังคงวุ่นวายและโกลาหล หลังกลุ่มตาลีบันยึดเมืองหลวงของอัฟกานิสถานได้สำเร็จ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ยืนยันว่า สหรัฐ "จัดการในสิ่งที่ควรจัดการ และทำในสิ่งที่ควรทำให้ดีที่สุด" พร้อมทั้งเน้นว่า "ยังไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพันธมิตร"
ขณะเดียวกับ ไบเดนย้ำคำมั่น "การอพยพชาวอเมริกันทุกคน" และ "ครอบครัวชาวอัฟกันซึ่งเคยช่วยเหลือรัฐบาลสหรัฐ" ให้เดินทางออกจากอัฟกานิสถานได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐยอมรับอีกครั้งว่า ขั้นตอนและความราบรื่นของการอพยพ "แตกต่างจากที่เคยคาดการณ์ไว้มาก" แต่เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไปแล้ว บนหลักการที่ว่า "ต้องยอมรับกับทุกผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา" แต่ไม่คิดว่า "จะเร็วขนาดนี้"
ทหารอเมริกันสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของชาวอัฟกัน ที่รวมตัวอยู่ด้านนอกท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล
ทั้งนี้ การล่มสลายภายในเวลาอันรวดเร็วของรัฐบาลอัฟกานิสถาน ที่สหรัฐหนุนหลังมาตลอด นับตั้งแต่เข้ามาทำสงครามโค่นอำนาจรัฐบาลตาลีบัน หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อปี 2544 และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่สนามบินคาบูล ทำให้ไบเดนเผชิญกับการตำหนิอย่างหนักจากแทบทุกฝ่ายในสหรัฐ ขณะที่เจ้าตัวกล่าวโทษ "ภาวะผู้นำอันล้มเหลว" ของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี และข้อตกลงโดฮาที่สหรัฐลงนามกับกลุ่มตาลีบัน ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่ พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือเฉพาะชาวอเมริกัน 169 คน ออกจากอัฟกานิสถาน "แบบเฉพาะกิจ" เมื่อวันศุกร์ โดยทหารอเมริกันในพื้นที่คุ้มกันพลเมืองกลุ่มนี้ไปยังโรงแรมซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินคาบูล เพื่อรอความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ ซีเอช-47 ชีนุก 3 ลำ ซึ่งเดินทางมารับ.

เครดิตภาพ : REUTERS