เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) ได้เปิดเผยเนื้อหาเรียกร้องให้มีการชำระหนี้กว่า 40,000 ล้านบาท ว่าในประเด็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ นั้น มีประเด็นทางกฎหมายอยู่เพียงประเด็นเดียว จากที่ข้อบัญญัติงบประมาณกรุงเทพมหานครได้บัญญัติว่า กรณีกรุงเทพมหานครไปสร้างภาระหนี้ผูกพันจะต้องผ่านสภากรุงเทพมหานครก่อน ซึ่งการทำสัญญาทั้งในส่วนการจ้างเดินรถและติดตั้งงานระบบในส่วนต่อขยายที่ 2 ที่เป็นภาระหนี้ผูกพัน เพราะกรุงเทพมหานครจะต้องชำระหนี้ทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่า ส่วนนี้ผ่านสภากรุงเทพมหานครแล้วหรือไม่

จึงมีการทำหนังสือเพื่อสอบถามทางสภากรุงเทพมหานครว่า ส่วนนี้ผ่านการอนุมัติจากสภากรุงเทพมหานครแล้วหรือไม่ เข้าใจว่าได้มีการส่งหนังสือไปแล้วเมือสัปดาห์ที่แล้ว หากยังไม่ส่งจะมีการส่งหนังสือในสัปดาห์นี้ และในส่วนของมูลหนี้จากส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 นั้น มีการผ่านสภาอย่างถูกต้อง หากการดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 จบกระบวนการ ก็สามารถจ่ายได้ทันที

นายชัชชาติ กล่าวต่ออีกว่า กรุงเทพมหานครเป็นหนี้ต้องจ่าย แต่ต้องเป็นหนี้ที่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการรับโอนทรัพย์สินในส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพันเช่นเดียวกัน เนื่องจากกรุงเทพมหานคร จะต้องมีการชำระค่าตอบแทนในอนาคตซึ่งต้องใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครมาจ่าย

ถ้าหากไม่ผ่านสภากรุงเทพมหานคร จะต้องทำให้ถูกกฎหมาย อาจจะต้องทำสัญญาใหม่ หรืออื่นๆ ในขณะมอบหมายงานนั้น ก็มีความเห็น 2 ส่วนด้วยกันคือ จะต้องผ่านสภากรุงเทพมหานครก่อน กับเมื่อเกิดภาระผูกพันแล้วค่อยมาขออนุมัติงบประมาณจากสภา แต่แนวคิดของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพัน จะต้องผ่านสภากรุงเทพมหานครก่อน

สำหรับประเด็นการร่วมหารือกับ รมว.คมนาคม นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า มีการนัดหมายว่า จะมีการร่วมหารือหลังการประชุมเอเปค ซึ่งอยู่ระหว่างการนัดหมาย โดยประเด็นที่เสนอไปมีหลายประเด็น อาทิ การขอใช้พื้นที่บางส่วน เช่น ใต้ทางด่วน ใต้สะพาน โดยกรุงเทพมหานคร อยากจะขอพื้นที่มาใช้เพื่อประโยชน์ประชาชน เช่น พื้นที่ใต้สะพานปิ่นเกล้า ก็มีแนวคิดอยากทำเป็นศูนย์สำหรับคนไน้บ้าน ทางด่วนตรงนานาอยากทำเป็น Hawker Center สำหรับหาบเร่แผงลอย

ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเทา-เงิน ซึ่งผู้บริหารอยากจะเดินหน้าต่อ โดยให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ เนื่องจากทั้งการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่น และพื้นที่บางส่วนออกนอกเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครเองไม่ได้มีงบประมาณมากนัก เช่น สายสีเทาจากผลการศึกษา และ market sounding กทม. จะต้องออกเงินให้เอกชนกว่า 20,000 ล้านบาท.