ความเคลื่อนไหว ศึกฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างวันที่ 21 พ.ย.-18 ธ.ค.65 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือน จะเปิดฉากฟาดแข้งกันแล้ว แต่สำหรับไทย หนึ่งในประเทศที่มีความคลั่งไคล้การชมฟุตบอลมากที่สุดอีกชาติหนึ่งในอาเซียน ยังคงไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ทำให้แฟนบอลชาวไทยยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะได้รับชมกันหรือไม่ อย่างไร และในช่องทางใดบ้าง
ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า ถึงตอนนี้เป็นเวลาที่กระชั้นชิดมาก เหลือไม่ถึง 1 เดือน ฟุตบอลโลก ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานบอร์ด กกท. จึงได้มอบหมายให้ กกท. เร่งหาข้อมูล ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 มารอไว้ เพื่อนำมาหารือในการประชุมบอร์ด กกท. วันที่ 26 ต.ค. นี้ พร้อมกับให้ กกท. พูดคุยกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถึงแนวทาง หากสุดท้ายแล้วไม่มีเอกชนรายใดออกตัวซื้อลิขสิทธิ์ จะทำอย่างไรต่อไป จะนำโมเดลเมื่อฟุตบอลโลกครั้งก่อน ที่เอกชนและภาครัฐ ช่วยกันซื้อลิขสิทธิ์มาใช้อีกหรือไม่
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า ระหว่างมาร่วมงานมหกรรมท่องเที่ยวเอเชีย ITB Asia 2022 ที่แซนด์ส เอ็กซ์โป แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ประเทศสิงคโปร์ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเอเย่นต์ฟุตบอลโลกของฟีฟ่า ที่มีสำนักงานอยู่ที่สิงคโปร์ ได้ข้อมูลมาเบื้องต้นว่า ฟูลแพ็กเกจ ถ่ายครบทุกคู่ ยังเป็นราคาที่สูงอยู่ โดยฟีฟ่า ใช้ฐานเศรษฐกิจและความสนใจในกีฬาฟุตบอลของแต่ละประเทศ เป็นเกณฑ์ในการคิดราคาค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งไทยอยู่ในเรตราคาเดียวกับมาเลเซีย
“ประธานบอร์ด กกท. ได้มอบหมายให้ กกท. หาข้อมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และให้ประสานงานเรื่องนี้กับ กสทช. โดยจะนำข้อมูลที่ได้ รวบรวมกลับไปรายงานให้ประธานบอร์ด กกท. ทราบ หลักๆ ประธานบอร์ด กกท. ตั้งใจให้รัฐบาล ต้องร่วมมือกับเอกชน ไม่ใช่เป็นภาระของรัฐบาลอย่างเดียว ต้องมีเอกชนเข้ามาช่วยด้วย ภาครัฐคงจะไปซื้อลิขสิทธิ์ โดยใช้งบประมาณแผ่นดินทั้งหมดไม่ได้ ความร่วมมือกันของทุกฝ่าย จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งในการประชุมบอร์ด กกท. คงจะได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้” บิ๊กก้อง กล่าว