เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมหรูห้าดาวบนหาดพัทยาที่หลายคนให้ความไว้วางใจเข้าใช้บริการ พักผ่อนช่วงวันหยุดกับครอบครัว และคนที่คนรัก สำหรับ “โรงแรมมิตร์ พัทยา” ที่ล่าสุดกำลังปรับภาพลักษณ์ครั้งสำคัญ สร้างสีสัน และความสนุกสนานให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยในวงกว้างมากขึ้น พร้อมสร้างซิกเนเจอร์โปรโมตจุดถ่ายรูปเก๋ในโรงแรม และร้านอาหารในเครือทั้ง 5 ร้าน 5 สไตล์การตกแต่ง
วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงอยากพาทุกคนมาทัวร์หลังการรีแบรนดิ้งครั้งสำคัญนี้ โดย “โรงแรมมิตร์ พัทยา” ใช้กลยุทธ์การสร้างซิกเนเจอร์ให้โรงแรมด้วยการสร้างจุดถ่ายภาพเก๋ๆ และโดดเด่น เพื่อสร้างภาพจำ และสร้าง “Word of Mouth” ในกลุ่มลูกค้าไปพร้อมๆ กัน ทั้งโซนล็อบบี้ที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ และ LoLa’s Dream คาเฟ่สีชมพูสุดน่ารัก และสระว่ายน้ำสุดเก๋
รวมทั้งร้านอาหารและคาเฟ่เบเกอรี่ฝรั่งเศส 5 ร้าน 5 สไตล์การตกแต่ง ทั้งร้าน “PIPPA” ที่มี 2 โซน ได้แก่ “Sunset Bar” รูฟท็อปบาร์สุดเก๋ที่เห็นโค้งหาดพัทยาแบบพาโนรามาเต็มๆ ตา และโซน “Pippa House” ที่ตกแต่งแนวจังเกิ้ลสวยงามตระการตาที่แรกและที่เดียวในพัทยา
นอกจากนี้ยังมี “FAT COCO” ร้านอาหารและคาเฟ่ออนเดอะบีช ธีมบาหลี สีสันสดใส พร้อมทั้ง “MALIRBREW” ในคอนเซปต์โรงเบียร์กึ่งผับ และ “PIPPIN” คาเฟ่พร้อมเบเกอรี่สูตรฝรั่งเศส หลากหลายเมนู รวมทั้ง “ห้องอาหารวันทนา” ห้องอาหารไทย รสชาติถึงเครื่องในแบบต้นตำรับ
และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านมากยิ่งขึ้น ทางโรงแรมจึงนำ QR Code มาใช้เป็นตัวกลางหลักในการสื่อสารกับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีบริการ “Hotel Butler” ผู้ดูแลและอำนวยความสะดวกส่วนตัว และหลังจากนี้ยังวางแผนต่อยอดแตกไลน์ผลิตสินค้ากลุ่ม Amenity และ SPA ซึ่งเป็นสูตรและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม เพื่อช่วยสร้าง Brand Loyalty ในใจลูกค้า และเป็น Top of mind สำหรับลูกค้าที่มาเที่ยวพัทยาอีกด้วย
ซึ่ง ศุภชัย รัตนโอภาส ประธานบริหารโรงแรมมิตร์ พัทยา และผู้ช่วยประธานบริหารกลุ่มโรงแรมเอ-วัน เปิดเผยว่า “ช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันหยุดยาวปลายปี เป็นช่วงที่คนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยวติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้รีแบรนดิ้งรีเฟรชภาพลักษณ์ของโรงแรมมิตร์ พัทยา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น ตามคอนเซปต์ Comfort Luxury ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย โดยหลังจากการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้ ทางโรงแรมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์”..
