นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการเปิดใช้ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย และการจัดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนามบิน หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญและสนามบินได้รับอนุมัติ/อนุญาตในเรื่องที่เกี่ยวข้องสมบูรณ์แล้ว คาดว่าสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะพิจารณาออกใบรับรองสนามบินสาธารณะให้สนามบินเบตงได้ในเดือน ก.ย.64
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นมีสายการบินนกแอร์ที่เสนอแผนทำการบินแบบเช่าเหมาลำมาแล้ว และอาจจะเริ่มทำการบินเมื่อสนามบินเปิดใช้งาน โดยเป็นเที่ยวบินเชื่อมต่อจากสนามบินหาดใหญ่ และเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ กพท. และสายการบินที่สนใจ ศึกษา วางแผนความต้องการเดินทางของผู้โดยสารในเส้นทางที่จะใช้สนามบินเบตงอย่างรัดกุม เพื่อให้สนามบินสามารถมีจำนวนผู้ใช้บริการตามเป้าหมาย และประกอบกิจการได้ในระยะยาว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าแผนการเตรียมความพร้อมรองรับการกลับมาสู่สภาวะปกติของอุตสาหกรรมการบินในช่วง 2-4 ปีข้างหน้าตามข้อมูลคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) เพื่อวางแผนระยะสั้น และระยะยาว ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการบินสามารถเตรียมพร้อมได้ทัน รวมทั้งการเดินหน้าพัฒนาระบบการบินทุกมิติ เพื่อให้ไทยสามารถรักษาสถานะความเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของภูมิภาค และพร้อมเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในระยะยาวได้
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ กพท. รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศที่อาจเกิดขึ้น จากกรณีที่สายการบินประสบสภาวะวิกฤติ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอ จนบางรายอาจไม่สามารถประคับประคองให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยให้ กพท. ร่วมกับสายการบิน จัดทำรายงานการวิเคราะห์และความจำเป็นที่สายการบิน จะต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ที่สายการบินร้องขอ รวมถึงการหารือร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วน เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ในเดือน ส.ค.นี้ กพท. จะหารือร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อรับฟังปัญหา จัดทำแนวทางกำหนด Roadmap และเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการบินของไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ และเตรียมความพร้อมด้านการบินของประเทศทั้งระยะสั้น และระยะยาวร่วมกัน เพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวการณ์บินที่ปกติ
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามผลการประเมินสถานการณ์สำหรับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยเน้นย้ำให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และให้ กพท. วางแผนจัดทำมาตรการด้านการบินที่รัดกุม พร้อมกับการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อรองรับหากเกิดการขยายโครงการแซนด์บ็อกซ์ไปยังจังหวัดอื่นๆ โดยให้ถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ทั้งนี้ กพท. จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และจังหวัดต่างๆ ประชุมหารือในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและการจัดการด้านการบินที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หลังมีการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ครอบคลุม 29 จังหวัด
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้ติดตาม และเร่งรัดให้ กพท. เร่งดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์การอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ (น้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป) ที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการเกษตร ซึ่งเริ่มมีผู้ยื่นขออนุญาตเข้ามาเป็นจำนวนมาก และได้รับรายงานว่าขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมนำเสนอตามขั้นตอน คาดว่า กบร. จะสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ในการประชุมครั้งหน้าเดือน ก.ย.64
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า กพท. ยังได้รายงานความคืบหน้าการพัฒนางานด้านการบริหารข่าวสารการบินของประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่ระบบการบริหารข่าวสารการบินที่เชื่อมโยงกับระบบข้อมูลข่าวสารการบินได้ทั้งระบบทั่วโลก (SWIM หรือ System-Wide Information Management) ซึ่งจะทำให้ระบบการเดินอากาศของประเทศไทยพัฒนาไปอีกขั้นตามแผนการเดินอากาศสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) และของภูมิภาค ทั้งนี้ อยู่ระหว่างเปิดให้นิติบุคคลเข้ายื่นขอรับการรับรองเป็นผู้ให้บริการข่าวสารการบิน (Aeronautical Information Service Provider) แทน กพท. พร้อมการเตรียมการด้านอื่นๆ เพื่อยกระดับงานข่าวสารการบินของไทยให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดสำหรับรองรับการพัฒนาระบบการเดินอากาศของประเทศในอนาคต.
