เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้วิ่งออกกำลังกายบริเวณสวนสาธารณะบึงหนองบอน พร้อมสำรวจพื้นที่งานก่อสร้าง และซ่อมแซมสะพานข้ามคลองเคล็ด ถนนอุดมสุข (ระหว่างซอยอุดมสุข 51 และ 53) ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดปัญหาทรุดตัวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งการจราจรและที่พักอาศัย
โดยจุดนี้เดิมเป็นเส้นทางก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา กำหนดแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2565 แต่กลับมีปัญหาน้ำใต้ดินรั่วไหลเข้ามาทางปล่องรับน้ำอาคารคลองเคล็ด ส่งผลให้ดินในพื้นที่ก่อสร้างโดยเฉพาะเสาเข็มของสะพานทรุดตัว โครงสร้างเกิดความเสียหาย ท่อประปาแตก ถนนตั้งแต่คลองเคล็ดไปถึงทางแยกศรีอุดม ถนนศรีนครินทร์ ทรุดตัวยาวกว่า 80 เมตร ลึก 1.50-2.50
ขณะที่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ยอมรับว่าการซ่อมแซมจุดเกิดเหตุไม่ใช่เรื่องง่าย ทำได้ไม่เร็วมาก จากการประเมินของผู้รับเหมาคาดว่าต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ เหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนที่ระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้รับเหมาและสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องบอกความจริงกับประชาชน เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก ชาวบ้านรออุโมงค์มา 5 ปีแล้ว ตามกำหนดเดิมจะเสร็จช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ แต่ก็เกิดปัญหาช่วงใกล้จะเสร็จเสียก่อน ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือปัญหาการจราจร
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า จากนี้อยากให้ผู้รับเหมาเร่งรัดการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด ต้องเอาจริงเอาจัง แต่ก็ยอมรับว่าการแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องเร่งทำ เพราะชาวบ้านร้องเรียนเยอะ ในสภา กทม. ก็พูดถึงเรื่องนี้ นอกจากนี้ควรต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะเกิดจากความผิดพลาดของงานก่อสร้าง บทเรียนครั้งนี้ต้องศึกษาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะยังมีโครงการอุโมงค์จุดอื่นๆ ที่ยังต้องทำอีกอย่างน้อย 4 อุโมงค์
ทั้งนี้ ชัชชาติ ยังได้สั่งให้ทางสำนักการระบายน้ำและผู้รับเหมา นัดประชาชนมาฟังรายละเอียด ความคืบหน้าโครงการ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านทราบ ว่าเกิดอะไรขึ้น จะใช้เวลาซ่อมแซมนานเท่าไร จะเปิด-ปิดการจราจรช่วงไหนเวลาไหน เพราะร้านค้า ร้านอาหาร กิจการของชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบเยอะ การทำงานต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องเห็นใจประชาชน ชาวบ้านเป็นผู้เสียสละ ต้องดูแลให้ดี แม้ไม่อยากให้เกิดปัญหา แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องดูแล เจ้าหน้าที่ต้องคุยกับประชาชน รายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบตลอด ต้องสร้างความไว้วางใจกลับคืนมา
ในส่วนของการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องดูแลทุกคน ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการรวบรวมข้อมูลและแนวทางการช่วยเหลือ เพราะชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ผู้เสียหายโดยตรง และผู้ที่เสียหายทางอ้อม เช่น รถติด ร้านค้าและร้านอาหารขายไม่ได้ ส่วนการเร่งรัดการซ่อมถนนและคืนพื้นที่ให้ประชาชน ได้มอบหมายให้ วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เข้ามากำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่นายชัชชาติลงพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ทั้งการจราจรติขัด ถนนทรุดจนบ้านพักพังเสียหายนั้น ผู้ว่าฯ กทม. ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับปากจะเร่งรัดการซ่อมแซมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุด
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์