ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนทุเรียนลุงคม ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองมะค่า ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เศษ วันนี้นายสังคม ล้อมกระโทก วัย 57 ปี ได้เร่งตกแต่งพื้นที่ว่างของสวน เพื่อให้เป็นจุดให้ลูกค้าที่จองทุเรียนได้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในวันที่จะมาตัดทุเรียนที่จองไว้ รวมถึงลูกค้าขาจรที่จะเดินทางมาเยี่ยมชมสวนทุเรียนที่ปลูกเอาไว้หลากหลายเกือบ 10 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 100 ต้น โดยในปีนี้ทุเรียนชุดแรกจะเริ่มตัดในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ซึ่งทางสวนได้ร่วมมือกับทางสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี ในการส่งเสริมและยกระดับทุเรียนของอำเภอครบุรี หรือที่เรียกกันติดปากว่าทุเรียนครบุรี ให้เป็นทุเรียนที่มีคุณภาพก่อนถึงมือผู้รับ ด้วยสโลแกน “เราตัดแก่ เพราะแคร์คุณ”

นายสังคม บอกว่า ทุเรียนภายในสวนของตนเองปีนี้ ให้ผลผลิตมากกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก เพราะไม่ต้องประสบกับปัญหาด้านสภาพอากาศและภัยธรรมชาติมากนัก อาจจะมีปัญหาในเรื่องของอากาศร้อนจัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ทุเรียนร่วงหล่นผิดปกติ จากเดิมที่คาดว่าจะได้ทั้งสวนมากกว่า 2,000 ลูก เหลืออยู่ขณะนี้ประมาณ 1,500 ลูก จากทุเรียนทั้งหมดกว่า 100 ต้น ติดลูกให้ผลผลิตจริงประมาณ 70 ต้น แต่ก็ถือว่าเป็นผลผลิตที่ดีมากแล้ว ขณะที่ด้านการตลาดตอนนี้มียอดจองทุเรียนเข้ามาแล้วมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็มีทั้งจองเป็นลูกรวมถึงจองยกต้นกันข้ามปี โดยภายในสวนของตนเองนั้นมีทุเรียนมากมายหลายชนิดเกือบ 10 สายพันธุ์ แต่ที่เริ่มให้ผลผลิตก็จะมีพันธุ์หมอนทองเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ทุเรียนอย่างพันธุ์มูซังคิง ที่ว่ากันว่าเป็นทุเรียนพันธุ์ที่อร่อยที่สุด ก็เริ่มให้ผลผลิตเป็นปีแรกแล้วเช่นเดียวกัน

นายสังคม กล่าวอีกว่า ในปีนี้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี มีแนวคิดที่จะสร้างความเชื่อถือให้แก่ประชาชนที่ต้องการจะกินทุเรียนครบุรี ให้ได้ทุเรียนที่ดีมีคุณภาพ ไปบริโภคด้วยความมั่นใจ ว่าทุกลูกเป็นทุเรียนที่แก่จัดได้มาตรฐาน ไม่มีทุเรียนอ่อนแทรก จึงได้ร่วมกันกับทางสวนจัดงานตัดทุเรียนแก่จัดส่งลูกค้า ภายใต้สโลแกน “เราตัดแก่ เพราะแคร์คุณ” ขึ้นในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ซึ่งในวันนั้นจะเป็นการเริ่มต้นตัดทุเรียนชุดแรกของสวนด้วย และทางสวนจะมีการตรวจเช็กทุเรียนทุกๆ ลูก ก่อนที่จะตัดส่งให้กับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุเรียนจากสวนแห่งนี้แก่จัดพร้อมรับประทานอย่างแน่นอน

ทั้งนี้จากรายงานของสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี ล่าสุดมีสวนทุเรียนประมาณ 2,000 ไร่ และเริ่มที่จะให้ผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 500 ไร่ ปีนี้คาดว่าจะมีทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 500 ตัน ซึ่งจะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้ามาในพื้นที่ กว่า 70 ล้านบาท