เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ลงพื้นที่ตลาดเช้าในเขตบางขุนเทียนและจอมทอง สำรวจปัญหาพร้อมรับฟังข้อร้องเรียนจากชาวบ้าน ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนมาทักทาย ร้องเรียนปัญหา บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยความคึกคัก

นายสกลธี กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ยังคงเป็นเรื่องของท่อระบายน้ำและขยะ ซึ่งเรื่องนี้ตนพูดมาเสมอว่างบประมาณของ กทม. ควรกระจายลงไปในทุกเขตซึ่งสกลธีโมเดลมีอยู่ 2 –3 เรื่อง เช่น เรื่องของซิตี้ แท็กซ์ (City Tax) หรือการเปลี่ยนขยะเป็นเงินแล้วให้เอกชนทำแทนซึ่งหากทำได้ในหนึ่งปี กทม.จะเหลือเงินงบประมาณอยู่ราวๆ 8,000 – 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สามารถกระจายงบฯไปได้ทั่วทุกเขตใน กทม. มากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา งบประมาณส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในส่วนกลางมากกว่า และไปลงในโครงการใหญ่ๆ ที่ไม่ได้มีการวางแผนจนทำให้โครงการย่อยๆ ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยตรงถูกละเลยไป อย่างไรก็ตาม คิดว่าเรื่องของขยะ ควรต้องดึงเอกชนหรือผู้ที่มีศักยภาพมาทำ แทนที่ กทม.ต้องจ่ายเงินเยอะๆ เอาเงินจากค่าขายขยะมาใช้แทน ซึ่งทำให้สามารถนำเงินไปพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้อีกมาก

นายสกลธี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในเรื่องปากท้องนั้นตนเห็นว่าพื้นที่นี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งยึดอาชีพเกษตรกรรมอยู่ในลักษณะ เดียวกับประชาชนในเขตมีนบุรี หนองจอก คลองสามวา ซึ่งตนตั้งใจส่งเสริม ให้ชาวกรุงเทพฯกลุ่มนี้สามารถดำเนินชีวิตไปได้ในวิถีเดิม แต่มีรายได้ที่มากขึ้น โดยหางบประมาณมาช่วยพัฒนาเรื่องเกษตรกรรม เพราะเชื่อว่างบประมาณที่ลงไปในแต่ละเขต สามารถนำไปพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่และความเหมาะสม

ขณะที่นายพิพัฒน์ ทัศนศิลป์ อายุ 69 ปี ประชาชนจากเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ในเขตบางขุนเทียนพบว่าปัญหาหลักๆคือเรื่องขยะ เพราะไม่ถูกจัดเก็บทุกวันหรือวันเว้นวัน บางครั้งปล่อยเป็นอาทิตย์ทำให้มีปัญหามาก ทั้งนี้เคยไปร้องเรียนที่เขต แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีรถมาจัดเก็บ ซึ่งจากที่ฟังนโยบายหาเสียงของผู้ว่าฯกทม.แต่ละคนเริ่มมีความหวังว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ตอนนี้เริ่มมีผู้ว่าฯกทม.ในใจอยากได้คนใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ เพราะเชื่อว่าจะมีแนวคิดใหม่มาเปลี่ยนแปลงให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา และน่าจะทำอะไรได้รวดเร็วกว่า.