เมื่อวันที่ 28 ก.ค. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยินดีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ตอบรับข้อเสนอแนะ เรื่อง ‘มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีสถานการณ์การชุมนุมและเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน’ ซึ่ง กสม.ชุดที่ผ่านมา (ชุดที่ 3) ได้เสนอไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย.สรุปได้ 4 ประเด็น ดังนี้ (1) การเคารพเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ว่า ‘การมีสิทธิเสรีภาพเป็นหลัก การจำกัดตัดสิทธิเสรีภาพเป็นข้อยกเว้น’ อย่างเคร่งครัด และการใช้กำลังจัดการการชุมนุมต้องทำเท่าที่จำเป็นและจำกัด 

(2) ควรบังคับใช้กฎหมายเฉพาะ ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะเป็นหลักแทนการใช้กฎหมายอื่น ๆ  และทบทวนกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน (3) ความคิดเห็นและข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาของผู้ชุมนุมควรจะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังและไม่ล่าช้า และ (4) ควรมีการชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นและความได้สัดส่วนในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพการชุมนุม และขอสนับสนุนให้มีคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อประกันว่า ข้อเรียกร้องจากทุกฝ่ายจะได้รับการพิจารณาและนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติวิธี

ทั้งนี้ กสม.ขอบคุณที่ ครม.ตอบรับข้อเสนอแนะดังกล่าว และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการแก้ไขความขัดแย้งในสังคมด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม กสม.ยังมีความกังวลต่อท่าทีและแนวทางการจัดการข่าวปลอม หรือ Fake news ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ระบุในสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน ที่ให้แต่ละหน่วยงานตรวจสอบ แก้ไขปัญหาข่าวปลอมและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมทั้งให้นำข้อกำหนดข้อที่ 11 จากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ว่าด้วยเรื่องการห้ามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารมาเป็นแนวปฏิบัติ

ซึ่ง​ กสม. เคยเสนอให้ทบทวนข้อกำหนดดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐสอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชน กสม.ขอย้ำให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องนี้ และให้ระมัดระวังการใช้กฎหมายอันอาจเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของประชาชนและสื่อมวลชน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม.