นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า “ภาพรวมสถานการณ์ทราฟฟิกศูนย์การค้าพุ่ง 30% โดยเฉพาะในกลุ่มศูนย์การค้าที่เน้นนักท่องเที่ยว หรือ ทัวริสต์มอลล์ ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ พัทยา ฯลฯ โดยตัวเลขจาก ททท. แสดงให้เห็นว่าเป็นผลจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในช่วงไตรมาส 1/2565 (ม.ค.-มี.ค.) ขยายตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 444,039 คน ขยายตัว 2,101% และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 34,173 ล้านบาท ขยายตัว 1,424% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564

สำหรับตลาดในประเทศ – เติบโตอานิสงส์จากเทศกาลสงกรานต์ และ เข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลัก อย่างเมืองชายทะเล ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเป็นพิเศษ และนักท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนเมืองรอง มักเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยในประเทศ ที่เน้นการเดินทางที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า และ เน้นเดินทางระยะใกล้มากขึ้น เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน แสดงให้เห็นว่า ภาพรวมทราฟฟิกศูนย์การค้าของกลุ่มลูกค้าในประเทศ กลับมาเป็นปกติแล้วอยู่ที่ 80% หรือ มากกว่า 100% เมื่อเทียบกับก่อน COVID-19

ตลาดต่างประเทศ – ยอด footfall อินบาวด์ทัวริสต์ เริ่มทยอยกลับเข้ามาชอปปิงในศูนย์การค้ามากขึ้น สูงขึ้นถึง 30% โดยเฉพาะในกลุ่มศูนย์การค้าที่เน้นนักท่องเที่ยว หรือ ทัวริสต์มอลล์ โดยนักท่องเที่ยว Top 3 ที่กลับมาในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ได้แก่  1. รัสเซีย 2.เยอรมนี และ 3.สหราชอาณาจักร เชื่อว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวจะค่อยๆ กลับมายังฟื้นตัวได้ดี โดยเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากภาครัฐในการผ่อนปรน เริ่มวันที่ 1 พ.ค. ให้นักท่องเที่ยวเข้าไทยได้โดยไม่ต้องทำการตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศ หากรัฐบาลเริ่มทยอยปลดล็อกมาตรการกักตัวต่างๆ เพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านและเมืองท่องเที่ยวระดับโลกได้ เพราะเมืองไทยมีต้นทุนค่าท่องเที่ยวและค่าครองชีพ ยังถือว่า อยู่ระดับที่คุ้มค่าอย่างยิ่งต่อการเดินทาง และมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ 

โดยล่าสุดหลายประเทศในอาเชียน อาทิ เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย (เกาะบาหลี) และสิงคโปร์ ได้เริ่มทยอยปลดล็อกเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว เชื่อว่า การเปิดประเทศในช่วงกลางปี จะทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยกลับมาพลิกฟื้นอีกครั้ง ทั้งนี้ตัวเลขจาก ททท. คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย กว่า 7 ล้านคน โดยสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 30% ของรายได้รวมปี 2562 

​เซ็นทรัลพัฒนา วาง 5 โรดแม็พ ต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยและเทศ

2. อัดโปรโมชั่นการร่วมมือกับสถาบันการเงินต่างๆ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น รับฟรีของพรีเมียม, ส่วนลดเมื่อรับประทานอาหารที่ศูนย์อาหาร รวมถึงส่วนลดจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และส่วนลด และ ของรางวัลพิเศษเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือสถาบันการเงินที่กำหนด   

3. การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานต่างประเทศในการจัดทำ Fam Trip รวมถึง Co-Promotion ต่างๆ ทั้งที่เซ็นทรัล วิลเลจ เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

4. การร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ “KLOOK”  ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้ในการหาดีลพิเศษต่างๆ โดยมีศูนย์การค้าที่เข้าร่วม

5. การร่วมมือกับร้านค้าในศูนย์การค้าฯ พันธมิตรโรงแรม และสายการบินชั้นนำโดยจัดทำ Welcome Package ที่ประกอบด้วยส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำมากมาย โดยร่วมมือกับพันธมิตรโรงแรมต่างๆโดยรอบศูนย์การค้าฯ ให้จัดมอบ Welcome Package นี้เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเข้าพัก รวมถึงการร่วมมือกับสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส แอร์เอเชีย เอมิเรตส์แอร์ไลน์ กาตาร์ แอร์เวย์ส คูเวตแอร์เวย์ และอื่นๆ เพื่อมอบสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ Welcome Pack ที่ประกอบด้วยส่วนลดจากร้านค้าในศูนย์การค้าฯ มูลค่ารวมกว่า 3,000 บาท เป็นต้น”

ทั้งนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีความเชื่อมั่นว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา ถือเป็นนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ที่จะเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าสำคัญที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยและทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี หากภาครัฐเร่งปลดล็อคการท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายนนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้อย่างแน่นอน