กลุ่มทุนของตระกูลริคเก็ตต์ส ตระกูลมหาเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกา นำโดย ทอม ริคเก็ตต์ส เจ้าของทีมชิคาโก คับบ์ส ทีมเบสบอลชื่อดังในศึกเมเจอร์ลีก เบสบอล ตัดสินใจถอนตัวจากการยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อจาก โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เวลานี้เหลือกลุ่มทุนอีกแค่ 3 รายที่มีโอกาสเทคโอเวอร์ “สิงห์สำอาง”
ก่อนหน้านี้ “เสี่ยหมี” จำต้องขายสโมสรหลังโดนรัฐบาลอังกฤษสั่งคว่ำบาตรโทษฐานมีส่วนเกี่ยวของกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งสั่งให้กองทัพบุกโจมตียูเครน ตั้งแจ่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มทุนของตระกูลริคเก็ตต์ส คือหนึ่งใน 4 กลุ่มทุนที่ยังมีโอกาสในการเทคโอเวอร์ เชลซี อย่างไรก็ตาม แฟนบอลของทีมดังแห่งกรุงลอนดอน ต่างพากันประท้วงต่อต้านการขอซื้อสโมสรขอตระกูลริคเก็ตต์ส เนื่องจาก โจ ริคเก็ตต์ส หนึ่งในสมาชิกของครอบครัว เคยพูดในทำนองดูหมิ่นชาวมุสลิม เมื่อปี 2019
อย่างไรก็ตาม “เดอะ ซัน” สื่อดังแดนผู้ดี ระบุว่านั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญของการตัดสินใจถอนตัวจากการซื้อกิจการเชลซี ในครั้งนี้ แต่มีเหตุผลสำคัญเรื่องอื่นมากกว่า ขณะที่ตระกูลริคเก็ตต์ส ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “หลังจากได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว กลุ่มทุนริคเก็ตต์ส-กริฟฟิน-กิลเบิร์ต ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยื่นข้อเสนอขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการของ เชลซี ตลอดกระบวนการในการยื่นข้อเสนอ มันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าบางเรื่องไม่อาจถูกจัดการได้ เนื่องจากกระบวนการซื้อขายกิจการมันไม่เป็นไปตามปกติ เราให้ความเคารพ เชลซี และแฟนบอลของสโมสรอย่างมาก และเราขออวยพรให้เจ้าของทีมคนใหม่โชคดี”
จากการถอนตัวของตระกูลริคเก็ตต์ส ส่งผลให้เวลานี้เหลือกลุ่มทุนแค่ 3 รายที่ยังมีลุ้นในการเทคโอเวอร์ เชลซี ได้แก่ 2 กลุ่มทุนจากสหรัฐของ สตีฟ ปายูกา และ ทอดด์ โบห์ลี รวมถึงกลุ่มจากจขากแดนผู้ดี ซึ่งนำโดยลอร์ด เซบาสเตียน โค และ มาร์ติน โบรห์ตัน โดยคาดว่าช่วงสัปดาห์หน้า น่าจะได้ทราบคร่าว ๆ แล้วว่าใครจะได้เป็นเจ้าของทีมรายใหม่ของ “สิงห์สำอาง” ก่อนที่การซื้อขายกิจการของสโมสรน่าจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนนี้