เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ จนมีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง ว่า นายธงทอง จันทรางศุ เป็นคนแรกที่ออกมาเปิดประเด็นว่าทำไมตำรวจบุรีรัมย์ ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้ว ทั้งที่เข็ม 3 ควรฉีดกระตุ้นให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งประเทศก่อน ต่อมา พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจบุรีรัมย์ ชี้แจงว่าตำรวจเหล่านี้ เป็นแนวหน้าไปรับผู้ป่วยจาก กทม. กลับมารักษาตัวที่ จ.บุรีรัมย์ และวัคซีนที่ฉีดเป็นวัคซีนก้นขวดที่เหลือ ไม่ได้ไปเบียดบังใคร เพราะปกติวัคซีนที่ฉีดจะมีเหลือก้นขวดอยู่ประมาณ 1-2 เข็ม จีงนำมาฉีดให้ตำรวจ

นายนิพิฏฐ์ ระบุอีกว่า แต่หากไปดูภาพข่าวที่ พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ขณะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ปรากฏว่า พ.ต.อ.สุเอก บอกว่าเป็นคนประสานขอฉีดวัคซีนให้ตำรวจเอง มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดำเนินการฉีดให้ โดยท่านไม่ได้บอกว่าขอฉีดวัคซีนก้นขวด ซึ่งแสดงว่าไม่ใช่วัคซีนก้นขวด เหมือนที่ผู้การบุรีรัมย์ กล่าว หากเป็นเช่นนั้น รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ต้องชี้แจงว่าตำรวจจังหวัดอื่นได้ฉีดวัคซีนก้นขวดเข็มที่ 3 กันบ้างแล้วหรือไม่ หากไม่ แสดงว่า มีการเลือกปฏิบัติจริงๆ

“ในระบอบประชาธิปไตย การเลือกปฏิบัติและความอยุติธรรมจะทำลายระบอบนี้ให้พังยับเยิน ผมว่าหากท่านนายกรัฐมนตรีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ สิ่งแรกที่ท่านต้องทำ คือ ตอบคำถามเรื่องวัคซีนก้นขวดที่บุรีรัมย์ หากท่านตอบไม่ได้ ผมไม่อยากจะคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมว่าเรื่องนี้น่ากลัวครับ สุดท้ายผมเกรงว่ารัฐบาลจะพังกับวัคซีนก้นขวดนี่แหละ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก” นายนิพิฏฐ์ ระบุ.