เมื่อวันที่ 26 ก.ค.นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ยังคงมีคำถามมาเรื่อยๆ ถึงกรณีคลัสเตอร์โรงงานไก่ อ.สองพี่น้อง ซึ่งผมได้ให้ทางสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรีชี้แจงไปก่อนหน้าแล้ว และในวันนี้ผมจะขอมาอธิบายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจ ถึงหลักการบริหารจัดการ และการควบคุมโรคจังหวัดสุพรรณบุรีครับ
1. เมื่อทราบว่ามีผู้ติดเชื้อในโรงงาน บริษัทได้หยุดการผลิต และ จนท.สาธารณสุข ลงพื้นที่คัดกรอง สอบสวนโรคทันที (ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.64)
2. เพื่อให้สามารถวางแผนจัดการ และคัดแยกผู้ติดเชื้อได้เร็วที่สุด จึงใช้ Rapid Test คัดกรองพนักงานทั้งหมด จำนวน 2,510 คน (100%) โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง
3. แบ่งพนักงานเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1)กลุ่มผู้ติดเชื้อ
2)กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
3)กลุ่มไม่ติดและไม่เสี่ยง
4. นำพนักงานกลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 มา Swab Test ซ้ำอีกครั้ง แยกผู้ติดเชื้อออกมารักษา สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถูกกักตัว ณ หอพักของโรงงาน
5. จากผลการคัดกรอง และผล Swab Test ทำให้ทราบว่า การแพร่ระบาดกระจุกตัวอยู่เฉพาะบางกลุ่ม จึงได้ปิดโรงงาน A เพื่อใช้เป็น รพ.สนามและที่กักตัว (บริษัทสร้างในบริเวณโรงงานและเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย) จึงให้พนักงานกลุ่ม 3 ทั้งหมดที่เหลือ (บุคคลที่ไม่ติดและไม่เสี่ยง) มาทำงานในโรงงาน B
**ดูแผนผังโรงงานในคอมเมนต์**
6. ได้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเข็ม 1 ในวันที่ 18 ก.ค.64 ให้กับพนักงานกลุ่ม 3 ที่ไม่ติดและไม่เสี่ยง จำนวน 1,435 โด๊ส (โดยวัคซีนนี้บริษัทเป็นผู้จ่ายเงินและสั่งซื้อตรงกับทางราชวิทยาลัยฯ ได้รับการจัดสรรตามโควตาของโรงงานอุตสาหกรรม)
สาเหตุที่ไม่ปิดโรงงาน B ด้วยเพราะ?
จากกรณีการแพร่ระบาดในแคมป์คนงาน หรือคลัสเตอร์โรงงานต่างๆ ของไทยที่ผ่านมา ที่มีพนักงานเป็นชาวต่างชาติ เมื่อมีการปิดโรงงานทั้งหมด (shut down 100%) แรงงานเหล่านี้ซึ่งมีจำนวนมาก และไม่ได้มีถิ่นฐานแน่ชัด พอขาดรายได้ก็จะอพยพหรือหลบหนีออกนอกพื้นที่ อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายสู่ชุมชน ยากต่อการควบคุม เราจึงเลือกที่จะหยุดการผลิตทั้งหมดในช่วงแรก ทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้ออุปกรณ์และพื้นที่ทั้งหมด ปิดโรงงานบางส่วนทำเป็น รพ.สนามและที่กักตัว หลังจากนั้นให้แรงงานที่ไม่ติด/ไม่เสี่ยง (กลุ่ม 3) ได้ทำงานต่อ ให้เขามีรายได้ อยู่ในการควบคุมดูแล โดยใช้วิธี Bubble & Seal บริษัทจะจัดที่พักให้ในโรงงาน และจัดหาที่พักด้านนอก โดยมีการควบคุมการเดินทางจากที่พักถึงที่ทำงาน เมื่อพนักงานกลับถึงบ้านหรือที่พักให้แยกกักตัวไม่ออกไปไหน ซึ่งจะมีสาธารณสุขอำเภอสองพี่น้องและฝ่ายปกครองคอยควบคุม
ยอดติดเชื้อสะสมโรงงานไก่
โรงงาน A : 148 ราย
โรงงาน B :46 ราย
ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งวันนี้ (26 ก.ค.64) จะมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากผล Swab Test ซ้ำ ของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ถูกกักตัวอยู่
สุดท้ายนี้ผมขอบคุณสำหรับข้อมูล/ข้อเสนอแนะ ด้วยดีเสมอมา ผมเข้าใจและน้อมรับทุกคำติชม เพราะรู้ดีว่าเราต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน ที่มุ่งหวังดีต่อ จ.สุพรรณบุรี ขอบคุณทุกท่านที่เปิดใจรับฟังครับ
สำหรับท่านใดที่สงสัยว่าวิธี Bubble & Seal ทำอย่างไร จะอธิบายในโพสต์ถัดไปครับ