ประเทศไทยมาถึงจุดวิปโยค คนนอนตายข้างถนน โรคระบาดคร่าประชาชนตายเป็นใบไม้ร่วง ล้อกับตัวเลขติดเชื้อนิวไฮต่อเนื่องพุ่งหลักหมื่น ที่ยังกดไม่ลง และตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ทะยานขึ้นหลักร้อย ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เคราะห์ครั้งนี้จึงตกไปอยู่ที่ “ผู้นำประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ต้องโดนเสียงก่นด่าและโห่ไล่
แต่ “บิ๊กตู่” ก็ยังกัดฟัน ประกาศไม่ถอย ไม่ลาออก ปักหลักสู้จนกว่าจะชนะ ล้อไปกับเสียงตะโกนจากภายนอก รุมกระหน่ำได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนบ้างไหม โดยเฉพาะปรากฏการณ์ดารา นางเอก พระเอก ระดับตัวแม่ ตัวพ่อของวงการ เซเลบแถวหน้า ไม่เว้นแม้แต่พระนักเทศน์ ออกมา “Call out” ส่งเสียงไปถึงรัฐบาล ปลุกกระแส “ขีดความอดทน” กระตุ้นอารมณ์สังคมกับการบริหารแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล
แต่อีกฟากมีเหล่าดารา นักแสดง และนักร้อง เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย พร้อมใจไม่ร่วม “Call out” ช่วยสนับสนุนมอบสิ่งของจำเป็น และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล รวมถึงมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ โดยในโลกโซเชียลผุดแคมเปญเปลี่ยนจาก “Call Out” เป็นร่วมมือกันดีกว่าไหม๊?? พร้อมใส่แฮชแท็ก #เราต้องรอด กระแสสังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ฝ่ายคุมอำนาจนั่งไม่ติดเก้าอี้
จน “เฮียโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส สวมบทแยกเขี้ยวขู่ ไล่ใช้กฎหมายทั้ง พ.ร.บ.คอมพ์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดการจัดการศิลปิน ดารา ตีคู่มากับ “ทีมทนายหน้าหอ พปชร.” ยื่นเรื่องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เขย่าขวัญดาราคนดังที่ออกมา Call out โจมตีรัฐบาลจัดการโควิดห่วย ฐานนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จไม่ตรงกับความจริง
เดือดร้อนถึง “ผู้กองธรรมนัส” ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาปฏิเสธ ว่า
“นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกพรรค พปชร.ปัจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคและความคิดเห็นแตกต่าง ถ้าเป็นผมจะถือว่าคำวิพากษ์วิจารณ์จะเป็นกระจกเงาสำคัญที่จะได้ปรับปรุงตัวเอง”
ขณะที่อีกฟากก็เล่นใหญ่ “พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย” รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น. ระบุว่า “มีการตรวจพิสูจน์กันอยู่ เพราะมีรายละเอียดเยอะ ว่าคำพูดส่วนไหนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล อยู่ระหว่างดำเนินการ รายละเอียด ซึ่งมีพยานหลักฐานปรากฏชัดอยู่แล้ว และถ้าพูดโดยสุจริตไม่มีปัญหา แต่ถ้าพูดแล้วมีผลกระทบก่อให้เกิดความเสียหายก็เป็นความผิด”
ต้องบอกว่าพฤติการณ์เรียกแขกได้ผล นอกจากจะไม่กลัวคำขู่ของผู้มีอำนาจแล้ว ดารา ศิลปินคนดังยังพาเหรดกันออกมาขย่มซ้ำ จนฝั่งรัฐบาลต้องออกตัวแก้เกี้ยวกันยกใหญ่ ว่าไม่ได้ขู่เล่นงาน พ.ร.บ.คอมพ์ กับคนดังที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลไม่พร้อมเสี่ยงแรงปะทะคลื่นดารา Call out ที่มากันมืดฟ้ามัวดิน และแรงกระทบสุดท้ายตกอยู่ที่ “บิ๊กตู่” อยู่ดี ที่ต้องแบกอกแอ่นรับทุกอย่างอยู่คนเดียว
รอบนี้เป็นความเสี่ยง ความเป็นความตายของประเทศไทย และชีวิตประชาชนตาดำๆ เป็นเดิมพัน จุด “วัดใจ” ที่ “บิ๊กตู่” ประกาศสู้ไม่ถอย กัดฟันลุยโควิด ในภาวะที่ใจฝ่อ สถานภาพรัฐบาลง่อนแง่น การเดิมพันมีทั้งได้และเสีย จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายและคิดหนักว่าจะแจว “เรือแป๊ะ” แจวต่อไปอีกพักใหญ่ หรือจะ “จอดเรือแป๊ะ” ถ้าไม่สามารถกู้ศรัทธากลับมาได้ทันเวลา.