นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดให้บริการสินเชื่อเอ็กซิมเพื่อซัพพลายเออร์ส่งออก สำหรับปล่อยกู้ให้ลูกค้าบุคคลเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี หลังจากที่ผ่านมาได้ปล่อยให้กู้กับผู้ประกอบการนิติบุคคลเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อต้องการสร้างผู้ส่งออกหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในไทย ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจะมีผู้ประกอบการ พัฒนาตัวเป็นผู้ส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย

สำหรับรายละเอียด สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อซัพพลายเออร์ส่งออก จะให้กู้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลที่ผลิตจำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ผู้ส่งออก หรือผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ทำธุรกิจส่งออก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี ตลอดอายุโครงการ 5 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. ร่วมกับผู้บริหารหลัก และหรือนิติบุคคลค้ำประกัน พิเศษ ลดดอกเบี้ยอีก 0.75% ในปีแรก สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีเอกสารรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยตั้งวงเงินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เปิดตัวสินเชื่อ เอ็กซิม โลจิสติกส์ สำหรับผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางเรือ ทางบก และทางอากาศ วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยต่ำสุด 5% ต่อปีในปีแรก สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ที่เข้าร่วมจะต้องตรึงราคาค่าระวางขนส่งสินค้า 3 เดือน เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ส่งออก หลังจากที่ผ่านมา ค่าระวางขนส่งเพิ่มขึ้น 50-60% โดยผู้สนใจขอรับบริการสินเชื่อได้ถึง 31 มี.ค.66 หากขอสินเชื่อภายใน 30 มิ.ย.65 จะรับส่วนลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีแรก 

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. พร้อมจับมือพันธมิตรเพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีวงเงินค้ำประกัน 94,000 ล้านบาท ผ่านโครงการพีจีเอส 9 ประกอบด้วย โครงการ บสย. เอสเอ็มอีนำเข้า-ส่งออก 1,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี โครงการ บสย. เอสเอ็มอี เติมเต็มรายย่อยวงเงิน 8,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี และโครงการ บสย.เอสเอ็มอี ดีแน่นอน  85,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี โดยคาดว่า จะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบอย่างน้อย 116,000 ล้านบาท  ช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ 20,600 ราย และยังช่วยรักษาการจ้างงานในระบบกว่า 600,000 ตำแหน่ง