เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วประเทศ และกรณีที่ทาง ศบค.มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง งดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์แคมป์คนงานนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลและกระทรวงแรงงานได้ออกมาตรการเยียวยาลูกจ้างในแคมป์คนงาน สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งเป็นผู้สนับสนุนค่าอาหาร และรับอาหารจากกลุ่มผู้ค้าชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ขับขี่รถรับจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย และร้านค้าบริเวณแคมป์ก่อสร้าง รวม 132 แห่ง เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายให้แรงงานในแคมป์ก่อสร้างตามโครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน ตั้งแต่วันที่ 12–27 ก.ค.นั้น
นายมานิตย์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดบนโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “บ้านแซ่บ” ได้โพสต์ถึงโครงการดังกล่าวว่า ในวิกฤติยังมีน้ำใจ มาหล่อเลี้ยงชีวิต ร้านบ้านแซ่บขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี รมว.แรงงาน และเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 6 ที่มอบความไว้วางใจ และหยิบยื่นโอกาสให้เราได้จัดทำข้าวกล่อง สำหรับแคมป์คนงานก่อสร้าง ขอบคุณที่ต่อลมหายใจให้พวกเรา ส่วนฟซบุ๊กอีกหลายรายได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับโครงการจัดทำข้าวกล่องส่งแคมป์คนงานทำนองเดียวกันว่า วันนี้เมนูปลาดุกผัดเผ็ดบวกไส้กรอกทอด ขอบคุณรัฐบาลได้ให้โอกาสในการทำอาหารให้ความช่วยเหลือแรงงาน ในช่วงภาวะวิกฤตินี้ ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
ทั้งนี้ หลังโพสต์ได้ถูกเผยแพร่ออกไปเหล่าชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมโครงการดังกล่าวจำนวนมาก เนื่องจากเป็นมาตรการเสริมที่กระทรวงแรงงานขอความร่วมมือนายจ้าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการดังกล่าวนอกจากจะดูแลคนงานในแคมป์แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก หาบเร่แผงลอยที่ได้รับผลกระทบจากโควิดให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว.