สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่านายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าการที่จีนยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยสวนทางกับประชาคมโลก ด้วยการไม่ประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และ “เลือกเดินบนเส้นทางแบบเดียวกัน” กับรัฐบาลมอสโก เป็นท่าทีที่นาโตกังวลเป็นอย่างยิ่ง และ “โลกประชาธิปไตย” ควรร่วมกันแสดงจุดยืน “ต่อต้านการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ”


ขณะเดียวกัน เลขาธิการนาโตแสดงความมุ่งมั่น ในการส่งเสริมและขยายขอบเขตความร่วมมือ กับพันธมิตรนาโตในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทั้งในด้านการควบคุมอาวุธ การป้องปรามอาชญากรรมไซเบอร์ และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีในอีกหลายมิติ


ในสัปดาห์นี้ นาโตจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกทั้ง 30 แห่ง โดยมีการเชิญ “แขกกิตติมศักดิ์” คือรัฐมนตรีของฟินแลนด์ สวีเดน จอร์เจีย และผู้แทนของสหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ สโตลเทนเบิร์กให้เหตุผลเกี่ยวกับ การที่สถานการณ์ความมั่นคงโลกในปัจจุบัน “ไม่มีขอบเขตอีกต่อไป” จึงมีการเชิญรัฐมนตรีของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ให้เข้าร่วมด้วย


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของนาโต เกิดขึ้นหลังนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่านาโตเป็นสหภาพทางทหารที่ก่อตั้ง “ด้วยวัตถุประสงค์แบบสงครามเย็น” ประเทศที่นาโตถือเป็น “ปรปักษ์โดยตรง” คือสหภาพโซเวียต ซึ่งล่มสลายไปแล้ว เมื่อปี 2534 ดังนั้น นาโตก็ควรจะ “ยุบตัวเองไปตั้งแต่ตอนนั้น” พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า นาโตพยายามต้อนรัสเซียให้จนมุม และเป็นผู้สุมไฟความขัดแย้งในยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS