สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราติสลาวา ประเทศสโลวาเกีย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่านายริชาร์ด ซูลิก รมว.พลังงานของสโลวาเกีย แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านพลังงาน ซึ่งยังคงต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ว่า “หากต้องชำระโดยตรงเป็นเงินรูเบิล สโลวาเกียต้องทำเช่นนั้น” ปัจจุบัน สโลวาเกียนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นสัดส่วนมากถึง 85%
The country cannot afford to lose its major supplierhttps://t.co/hyVrMSxLI9
— RT (@RT_com) April 3, 2022
ก่อนหน้านั้นไม่นาน กระทรวงพลังงานของลิทัวเนียออกแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ลิทัวเนียจะ “ยุติความสัมพันธ์ด้านพลังงาน” ด้วยการไม่ใช้ก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอีก โดยจะเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งนำเข้าจากประเทศอื่นแทน แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน ว่าคือประเทศใด อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงนำเข้าแอลเอ็นจีจากสหรัฐ อย่างน้อย 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายในสิ้นปีนี้
Lithuania has stopped importing natural gas from Russia as of April and will be able to rely instead on deliveries from other countries to meet its energy needs, the country’s president announced, saying the move was an example for other EU members. https://t.co/WMJPaYayZc
— New York Times World (@nytimesworld) April 2, 2022
นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หาก “ประเทศและดินแดนที่ไม่เป็นมิตร” ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ในยุโรป ประสงค์ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ต้องเปิดบัญชีกับธนาคารของรัสเซีย เพื่อการทำธุรกรรมเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น มิเช่นนั้น รัสเซียถือว่า “เป็นความล้มเหลวของลูกค้า” และผู้ผลิตของรัสเซีย “จะหยุดส่งก๊าซให้แก่ลูกค้ารายนั้น”
อย่างไรก็ดี ธนาคารก๊าซพรอมเป็นสถาบันการเงินแห่งเดียวของรัสเซีย ณ เวลานี้ ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดช่องทางรับชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่เป็นทั้งสกุลเงินรูเบิล และดอลลาร์สหรัฐ หรือยูโร แล้วหลังจากนั้น ธนาคารก๊าซพรอมจะเป็นผู้คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเหล่านั้นเป็นเงินรูเบิลต่อไป.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES