เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยนพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด -19 ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,335 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ 19 ราย จากกรุงเทพฯและปริมณฑล 6,069 ราย จาก 4 จังหวัดชายแดนใต้ 805 ราย จากจังหวัดอื่นๆ 7,801 รายและจากเรือนจำและที่ต้องขัง 641 ราย โดยจากสถานการณ์ในภาพรวมพบว่ามีการกระจายผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อทุกจังหวัด โดยเฉพาะในแถบอีสานกลางและอีสานใต้ที่รับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพฯและปริมณฑลกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา นอกจากนี้ยังพบคลัสเตอร์ในสถานประกอบการหรือโรงงานในบางจังหวัด ขณะที่ผู้เสียชีวิตวันนี้ 129 ราย อยู่ที่กทม.ถึง 66 ราย ปัจจัยเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นผู้มีโรคประจำตัว และพบหญิงตั้งครรภ์อายุครรถ์ 20 สัปดาห์เสียชีวิตด้วย และผู้เสียชีวิตมี 79 รายที่มีประวัติไม่เคยรับวัคซีน
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงก่อนหน้านี้มาจากคนรู้จักหรือคนในครอบครัว แต่ในขณะนี้มีพื้นที่แพร่ระบาดหนักมากที่พบว่าหลายกรณีไม่สามารถตรวจสอบว่า ติดเชื้อมาจากใคร เพราะวันนี้เราไม่รู้แล้วว่าคนใกล้ตัวติดเชื้อแล้วหรือไม่ ขณะที่จำนวนผู้รับวัคซีนพบว่ากลุ่มผู้สูงอายุ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 12.5 ล้านราย แต่ขณะนี้ฉีดไปแค่ร้อยละ 20 ในเข็มที่1 และเข็มที่2 เพียงร้อยละ1.3 ดังนั้น จะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ผู้สูงอายุภายในบ้านมารับวัคซีน โดยเร็วที่สุดเพราะมีความเสี่ยง
นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า สรุปสถานการณ์วันนี้ ยังมีการติดเชื้อค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดหนักและมีการกระจายของผู้ติดเชื้อไปยังจังหวัดอื่นๆด้วย ทั้งจากการรับกลับบ้านและมีการเดินทางกลับไปโดยที่ไม่มีการแจ้ง และไปแพร่เชื้อต่อ โดยเฉพาะวันนี้พื้นที่ระบาดเป็นปัจจัยเสี่ยงมากเพราะไม่ทราบว่าใครที่อยู่ใกล้ตัวเราติดเชื้อไปแล้วบ้าง เพราะ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ดังนั้นต้องเร่งมาตรการป้องกันที่สำคัญช่วงล็อกดาวน์ 14 วัน ทั้งในส่วนการป้องกันโรคส่วนบุคคล ต้องทำเสมือนว่าคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว เช่น การไปซื้อของในตลาดร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือโดยสารรถขนส่งสาธารณะ เพราะวันนี้ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักต่างมีความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะการออกไปซื้อของที่ตลาดหรือออกไปซื้อของร้านสะดวกซื้อ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ขณะเดียวกันการป้องกันการระบาดในโรงงานและสถานประกอบการจำเป็นมาก เพราะหลายจังหวัดเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ก็มีการสั่งปิดโรงงานทำให้คนงานกลับไปอยู่ที่บ้าน เข้าชุมชนหรือหางานใหม่ทำ ทำให้นำเชื้อไปแพร่ต่อยังชุมชน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่แต่ละจังหวัดเร่งสื่อสารให้โรงงานและชุมชนรอบข้างเข้าใจปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการบับเบิ้ลแอนซีล เห็นว่าโรงงานไหนถ้ายังไม่พบผู้ติดเชื้อให้รีบควบคุมโรคแบบบับเบิ้ลแอนซีลจัดระบบควบคุม เพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่โรงงาน และหากพบผู้ติดเชื้อแล้วก็ไม่จำเป็นต้องปิดโรงงาน แต่ต้องแยกกลุ่มคนที่ติดเชื้อหรือมีโอกาสเสี่ยงออกมาจากคนอื่นๆ นอกจากนี้ป้องกันการแพร่เชื้อในตลาด ทั้งในส่วนของผู้ค้าา แรงงานรับจ้างในตลาดและลูกค้า รวมทั้งมาตรการงดออกจากบ้าน และงดเดินทางข้ามจังหวัดอย่างเข้มข้น
เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อเกินหมื่นรายต่อเนื่องมาหลายวันและหากยังไม่ลดลงจะต้องใช้มาตรการอู่ฮั่นโมเดลหรือไม่ ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าวว่า มาตรการตอนนี้ใกล้เคียงอู่ฮั่นโมเดลแล้ว และสถานการณ์ตอนนี้ก็คาดว่าจะยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์ในกรุงเทพฯมีแนวโน้มคงตัวมากขึ้นและมีแนวโน้มจะดีขึ้นในช่วง 4-6 สัปดาห์ แต่ในต่างจังหวัดจะพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องในระยะนี้ จึงขอร่วมมือจากทุกคนเพื่อให้ไปไม่ถึงอู่ฮั่นโมเดลที่ต้องปิดทุกอย่าง เพื่อให้ใช้ชีวิตปกติที่สุด โดยเฉพาะการอยู่บ้านกันให้มาก ลดการเดินทางข้ามจังหวัดและการเดินทางไปซื้อหาอาหารก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด เสมือนว่าคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว
ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าวว่า ช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์วิกฤติในกรุงเทพฯปริมณฑลและพื้นที่สีแดงเข้ม จึงต้องช่วยกันลดการติดเชื้อลดการแพร่กระจายเชื้อลง เพื่อคาดการณ์ว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ หากตัวเลขลดลงก็จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น
ด้านนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ภาวะเตียงดูแลผู้ป่วยหนักและรุนแรงมากค่อนข้างตึงตัว แต่ กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการเข้าดูแลผู้ป่วยเชิงรุกที่บ้านและเฝ้าระวังติดตามอาการโดยแพทย์และพยาบาล เพื่อดูแลรักษา และขณะนี้เราอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าสถานการณ์วิกฤติมากแล้ว สิ่งสำคัญ คือ มาตรการที่ดำเนินการต้องมีความเข้มข้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วน ยืนยันว่า บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด