เซอร์ฮีย์ พัลกิน ประธานบริหารของชัคตาร์ โดเนตส์ค ทีมดังในลีกยูเครน เรียกร้องยังฟีฟ่าและยูฟ่า ให้ขับสหพันธ์ฟุตบอลรัสเซีย (RFS) ออกจากการเป็นสมาชิก โดยเปรียบเทียบกับแอฟริกาใต้ยุคแบ่งแยกสีผิว ที่เคยโดนถีบออกมาแล้ว
สโมสรและทีมในรัสเซีย กำลังโดนแบนในระดับนานาชาติ แต่สหพันธ์ฟุตบอลรัสเซีย ยังคงเป็นสมาชิกของยูฟ่าและฟีฟ่า ซึ่งในการประชุมประจำปีที่กรุงโดฮา วันที่ 31 มี.ค. คาดกันว่าสหพันธ์ยูเครน ไม่ได้เข้าร่วม แต่รัสเซียยังน่าจะส่งตัวแทนร่วมงาน
“ผมอยากจะขอให้ยูฟ่าและฟีฟ่า คืบหน้าไปอีกก้าว ด้วยการยกเลิกหรือระงับการเป็นสมาชิกของรัสเซีย ในยุค 70 แอฟริกาใต้ถูกไล่ออกจากฟีฟ่า เนื่องจากนโยบายการแบ่งแยกสีผิว และรัสเซียสมควรถูกไล่ออกจากนโยบายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน และสงครามนองเลือดที่บ้านเกิดของเรา”
“ชาวรัสเซียมักใช้กีฬาเป็นโฆษณาชวนเชื่อสำหรับอุดมการณ์ของพวกเขา หากอุดมการณ์นี้คุกคามการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รัสเซียควรต้องถูกโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนนโยบายในการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทุกชนิด”
นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคดอนบาสในปี 2014 ชัคเตอร์ ถูกบังคับให้เล่นเกมในบ้านของพวกเขาที่เลอวีฟ, คาร์คีฟ และ เคียฟ ขณะที่ลีกยูเครนตอนนี้ ถูกระงับเนื่องจากสงคราม
“สโมสรและชาวยูเครนทุกคนต้องการความสงบ สงครามบ้าๆ นี้ จำเป็นต้องหยุดเสียที ชาวยูเครนกำลังต่อสู้กัน และคนทั้งโลกเห็นว่าทุกวันนี้เราได้ปกป้องไม่เพียงแค่เสรีภาพและความเป็นอิสระของเรา แต่ยังรวมถึงเสรีภาพและค่านิยมของโลกประชาธิปไตยด้วย”
“อย่างไรก็ตาม วิธีเดียวที่จะเอาชนะการรุกรานของรัสเซีย คือการรวมความพยายามของเราเข้าด้วยกัน มันจำเป็นต้องกระชับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในทุกทิศทางที่เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือต้องจำกัดด้านทรัพยากรและข้อมูลของรัสเซียเพื่อให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยว”
“เราสามารถทำอะไรในด้านกีฬาได้บ้าง? การแยกรัสเซียออกจากการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติได้ทำไปแล้ว แต่ผมอยากจะขอให้ยูฟ่าและฟีฟ่า ก้าวหน้าไปอีกขั้น”