สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลียเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ว่า รัฐบาลออสเตรเลียแถลงว่า เมืองซิดนีย์รัฐนิวเซาท์เวลส์จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มอีก 50,000 โด๊สในสัปดาห์นี้ แต่นายแบรด ฮาซซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์จำต้องได้รับวัคซีนเพิ่มเติม หาไม่แล้วจะมีคนจำนวนมากไม่เคารพกฎหมายด้วยการฝ่าฝืนคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน ทั้งที่นั่นคือวิธีการที่ดีที่สุดที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ได้


เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐนิวเซาท์เวลล์ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 163 ราย โดย 37 รายต้องเข้าห้องไอซียู ตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 136 รายเมื่อวันก่อน แต่ทั่วประเทศนั้นพบ 176 ราย ตัวเลขสูงติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้ว ซึ่งเกือบจะทั้งหมดอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทั้งนี้ออสเตรเลียมีผู้ป่วยสะสม 32,600 ราย และเสียชีวิต 916 ศพ
รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้กล่าวย้ำถึงข้อเรียกร้องให้รัฐอื่นๆล้มเลิกความพยายามที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้คนหนุ่มสาวในเมืองซิดนีย์ที่เป็นพื้นที่สีแดงของการแพร่ระบาดจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน แล้วยังกล่าวรำลึกความจำถึงเรื่องที่รัฐนิวเซาท์เวลส์เคยช่วยเหลือรัฐอื่นๆมาก่อนในช่วงวิกฤต
ขณะเดียวกันก็มีคนฝ่าฝืนคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านด้วยการออกมาชุมนุมประท้วงราว 3,500 คนและส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จนเกิดปะทะกับตำรวจในย่านใจกลางเมืองซิดนีย์ เพราะไม่พอใจการใช้คำสั่งล็อกดาวน์นานร่วมเดือนแล้ว ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงได้ 57 คนนำมาสอบสวน ก่อนพิจารณาลงโทษตามลำดับต่อไป นอกจากนั้นก็ยังมีการประท้วงด้วยในเมืองเมลเบิร์นและแอดิเลด ซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ด้วยเช่นกัน
เครดิตภาพREUTERS